ภายในงาน The Game Awards 2021 ที่ผ่านมา แฟนๆ ที่เฝ้ารอจะได้เล่นเกม Final Fantasy VII Remak Intergrade บน PC ต่างได้รับข่าวดีเมื่อผู้พัฒนา Square Enix ทำการยืนยันวันวางจำหน่ายของเกมภายในงานผ่านตัวอย่างใหม่ โดยผู้เล่นชาว PC จะสามารถพบกับเกมได้ในวันที่ 16 ธันวาคมนี้!ล่าสุด ทางผู้พัฒนายังได้ทำการเปิดเผยความต้องการ PC สำหรับใช้เล่นเกมออกมาทาง Twitter ของค่ายด้วย ซึ่งแม้จะดูไม่หนักหนาเป็นพิเศษ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าความต้องการที่ค่ายเปิดเผยมานี้ตั้งเป้า Performance ไว้ที่เท่าไหร่ (ความต้องการขั้นต่ำอาจจะเล่นเกมได้ที่ 30FPS เท่านั้นก็เป็นได้) สำหรับเกมเวอร์ชั่น PC นี้จะสนับสนุนกราฟิคระดับ 4K, HDR, RTX รวมไปถึงสนับสนุนการเล่นด้วยเมาส์และคีย์บอร์ดตามมาตรฐานของเกมเวอร์ชั่น PC ทั่วไป แต่จุดน่าสนใจคือการที่ผู้พัฒนาบอกว่า 'คอมพิวเตอร์ที่มีศักยภาพสูงที่สุดจะสามารถสัมผัสเกมที่ระดับ 120 FPS ได้เลย' ซึ่งดูจะบ่งบอกว่าเกมจะล๊อค FPS สูงสุดไว้ที่ 120 FPS เท่านั้นทั้งนี้ ผู้เล่นหลายคนอาจจะรู้สึกว่าดีใจได้ไม่เต็มอก เมื่อผู้พัฒนา Square Enix เปิดเผยด้วยว่าเกม Final Fantasy VII Intergrade จะวางจำหน่ายบน PC ในราคา $70 (หรือเท่ากับเกม PS5 บ้านเรา แผ่นละ 2,000+) ซึ่งถือเป็นเกม AAA เกมแรกที่ตั้งราคานี้บน PC ในขณะที่แม้แต่เกม PS5/Xbox Series X/S อื่นๆ ยังต้องลดราคาลงมาเหลือ $60 (ราว 1,800 บาท) โดย Square Enix ยังประกาศด้วยว่าเกมผจญภัยโลกเปิด Forsaken ของพวกเขา ที่มีกำหนดวางจำหน่ายในปีหน้า ก็จะวางจำหน่ายในราคาเท่ากันด้วยแน่นอนว่าการซื้อเกมในราคาระดับเกิน 2,000 บาทต่อเกมไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ที่ผ่านๆ มาเกมที่มีราคาระดับนี้มักจะมาพร้อมกับ DLC หรือเป็นชุดพิเศษ Collector's Edition อะไรซักอย่าง ในขณะที่ FF7R: Intergrade จะวางจำหน่ายเกมชุดปกติในราคาเท่ากัน แถมเป็นเกมที่วางจำหน่ายไปแล้วพักใหญ่ในคอนโซลอื่นๆ ด้วย คงต้องรอดูต่อไปว่าผู้พัฒนาเกมค่ายอื่นๆ จะฉวยโอกาสเอาอย่างบ้างไหม และจะส่งผลกระทบต่อผู้เล่นอย่างเราๆ มากน้อยแค่ไหนในอนาคตแหล่งข่าว: PCGamer

อีกเพียงแค่ 1 เดือนเท่านั้น กับการกลับไปรับบทเป็น Yuffie ใน Final Fantasy VII Remake Intergrade ซึ่งล่าสุดดูเหมือนว่าตัว DLC : Intermission นี้จะเป็นเกมแยกที่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแยกกันบนเครื่อง PS5 ไม่ว่าผู้เล่นจะซื้อในแบบแผน หรือ Digital ก็ตามในส่วนของ DLC : Intermission นี้เราจะได้รับบทเป็น Yuffie Kisaragi สำรวจ Midgar ในช่วงเวลาเดียวกันกับเนื้อเรื่องในเกมหลัก โดยส่วนเสริมนี้ได้เพิ่มเนื้อเรื่องเข้ามาอีก 2 Chapter สำหรับเจ้าของเกมบนเครื่อง PS4 จะสามารถอัพเกรดเป็นเวอร์ชัน Intergrade ได้ฟรี แต่ตัว DLC : Intermission จะเล่นได้บนเครื่อง PS5 เท่านั้นครับส่วนสำหรับคนที่ซื้อแผ่น  Final Fantasy VII Remake Intergrade มา ภายในกล่องจะมี Code ของ DLC : Intermission แยกมาให้ด้วย สามารถเติม Code ดังกล่าวแล้วกด Download ส่วนเสริมได้เลยCredit : https://www.gameinformer.com/2021/05/12/final-fantasy-vii-remake-intergrade-yuffie-dlc-needs-to-be-downloaded-separately

ประธาน Square Enix คุณ Yosuke Matsuda ถูกถามในการสัมภาษณ์กับ VGC ว่า 'เกมอะไรของบริษัทที่เขาคาดหวังมากที่สุดในปี 2021' แม้ว่าทานประธานไม่ได้เอ่ยชื่อของเกมออกมาตรงๆ แต่เขากลับบอกว่าให้รอดูประกาศเกมที่จะมาหลังจากนี้ในช่วงปลายปีภายในงาน E3'Outrider วางจำหน่ายในวันที่ 1 เมษา, NieR Replicant ก็จะวางจำหน่ายในเดือนเดียวกัน ส่วน Final Fantasy VII Remake Intergrade จะขายเดือน มิถุนายน บริษัทจะประกาศแผนช่วงครึ่งปีหลังเร็วๆ นี้ เรามีแผนจะประกาศบางอย่างในงาน E3 ด้วย'ถ้าพูดถึงผลงานที่กำลังถูกจับตามองอยู่ของ Square Enix คิดว่าคงไม่พ้น Final Fantasy 16 ที่ติดอันดับในนิตยสาร Famitsu มาหลายอาทิตย์แล้ว ไม่แน่ว่าในงาน E3 เราอาจได้เห็นวันวางจำหน่ายของเกมภาคใหม่นี้เป็นครั้งแรกรึเปล่า คงมีแต่คนในบริษัทที่รู้ตอนนี้ครับCredit: https://www.videogameschronicle.com/news/square-enix-joins-the-growing-digital-e3-2021-roster/

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกมต่อสู้ชั้นนำอย่าง Tekken 7 ได้เพิ่มตัวละครนักสู้รับเชิญแปลกๆ เข้าไปในเกมมากมาย ตั้งแต่วายร้ายจอมหวดจากซีรี่ส์ The Walking Dead อย่าง Negan ไปจนถึงองค์ชายบอยแบนด์ Noctis จากเกม Final Fantasy XV โดยล่าสุด ด้วยอานิสงส์จากนักม๊อดที่ใช้ชื่อว่า Wolfe ดูเหมือนว่าเกมจะได้รับเชิญตัวละครจากซีรี่ส์ Final Fantasy เข้าสู่สังเวียนราชากำปั้นเหล็กอีกคนหนึ่งแล้ว นั่นก็คือนางเอกสาวชวัญใจมหาชนจาก Final Fantasy VII คุณ Tifa Lockhart นั่นเอง! สำหรับม๊อด Tifa Lockhart นี้จะเป็นการนำสกินของ Tifa มาสวมทับลงไปบนตัวละคร Josie ที่มีอยู่ในเกมอยู่แล้ว โดยนอกจากจะมาพร้อมกับชุดต่างๆ ให้เลือกถึง 5 แบบดังที่เห็นได้ในคลิปด้านบน ยังมีเสียงพากย์ตัวละครที่ดึงมาจากเกม Final Fantasy VII Remake แถมเขายังทำม๊อดแยกเป็นด่านต่อสู้ในเมือง Midgar ที่มีเตาปฏิกรณ์ Mako ในฉากหลังให้โหลดมาใช้คู่กันอีกด้วย ทั้งนี้ คุณ Wolfe เปิดเผยว่าเขาใช้เวลาในการพัฒนาม๊อดตัวนี้ถึง 500 ชั่วโมงตลอดสองเดือนที่ผ่านมา และยอมรับว่าม๊อดนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี 100% เพราะเขายังอยากเพิ่มเสียงพากย์และเพิ่มชุดให้กับตัวละครอีกอย่างน้อย 1 ชุด (ชุดกี่เพ้าเขย่าใจต้องมาแล้ว) แถมยังต้องแก้บั๊คเล็กน้อยอีกประมาณหนึ่ง แต่สำหรับชาว Tekken 7 ที่อยากได้น้อง Tifa มาร่วมสังเวียนก่อน สามารถหาโหลดม๊อดดังกล่าวได้จากลิงค์นี้ (โหลดม๊อดด่าน Midgar จากลิงค์นี้) Credit: Kotaku

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เกมต่อสู้ชั้นนำอย่าง Tekken 7 ได้เพิ่มตัวละครนักสู้รับเชิญแปลกๆ เข้าไปในเกมมากมาย ตั้งแต่วายร้ายจอมหวดจากซีรี่ส์ The Walking Dead อย่าง Negan ไปจนถึงองค์ชายบอยแบนด์ Noctis จากเกม Final Fantasy XV โดยล่าสุด ด้วยอานิสงส์จากนักม๊อดที่ใช้ชื่อว่า Wolfe ดูเหมือนว่าเกมจะได้รับเชิญตัวละครจากซีรี่ส์ Final Fantasy เข้าสู่สังเวียนราชากำปั้นเหล็กอีกคนหนึ่งแล้ว นั่นก็คือนางเอกสาวชวัญใจมหาชนจาก Final Fantasy VII คุณ Tifa Lockhart นั่นเอง! สำหรับม๊อด Tifa Lockhart นี้จะเป็นการนำสกินของ Tifa มาสวมทับลงไปบนตัวละคร Josie ที่มีอยู่ในเกมอยู่แล้ว โดยนอกจากจะมาพร้อมกับชุดต่างๆ ให้เลือกถึง 5 แบบดังที่เห็นได้ในคลิปด้านบน ยังมีเสียงพากย์ตัวละครที่ดึงมาจากเกม Final Fantasy VII Remake แถมเขายังทำม๊อดแยกเป็นด่านต่อสู้ในเมือง Midgar ที่มีเตาปฏิกรณ์ Mako ในฉากหลังให้โหลดมาใช้คู่กันอีกด้วย ทั้งนี้ คุณ Wolfe เปิดเผยว่าเขาใช้เวลาในการพัฒนาม๊อดตัวนี้ถึง 500 ชั่วโมงตลอดสองเดือนที่ผ่านมา และยอมรับว่าม๊อดนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี 100% เพราะเขายังอยากเพิ่มเสียงพากย์และเพิ่มชุดให้กับตัวละครอีกอย่างน้อย 1 ชุด (ชุดกี่เพ้าเขย่าใจต้องมาแล้ว) แถมยังต้องแก้บั๊คเล็กน้อยอีกประมาณหนึ่ง แต่สำหรับชาว Tekken 7 ที่อยากได้น้อง Tifa มาร่วมสังเวียนก่อน สามารถหาโหลดม๊อดดังกล่าวได้จากลิงค์นี้ (โหลดม๊อดด่าน Midgar จากลิงค์นี้) Credit: Kotaku

จากบทสัมภาษณ์ผ่านสื่อของ Famitsu เกี่ยวเกม Final Fantasy VII Remake ที่ก่อนหน้านี่ได้เปิดเผยข้อมูลการทำงานภายในทีมในเรื่องของจุดจบของเกมที่ทางผู้พัฒนามีความเห็นต่างกัน ว่าอยากให้ตัวเกมใน Part หลังมีจุดจบแปลกใหม่มากขึ้น     ซึ่งล่าสุดได้รับการยืนยันออกมาแล้วว่าตัวเกมกำลังมุ่งหน้าพัฒนาอย่างเต็มที่ ด้วยข้อความพร้อมภาพที่โพสบน Twitter ของ aitaikimochi ผู้แปลบทความจาก Ryokutya2089 ที่ทาง Tetsuya Nomura ผู้พัฒนา กล่าวถึงฟีเจอร์บางอย่างในเกมเกี่ยวกับตัวเกมออกมาเพิ่มเติม เขายังกล่าวเพิ่มเติมด้วยอีกว่า     "พวกเรากำลังเร่งพัฒนาให้เร็วที่สุด และทำออกมาอย่างเต็มที่เพื่อมอบประสบการณ์บนโลก Final Fantasy สุดยิ่งใหญ่ให้กับแฟนๆ ที่รอคอย พวกเขาจะมอบภาพรวมไปถึงรายละเอียดตัวเกมอันสวยงามให้ตัวเกมเป็นงานที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น"     ทั้งนี้ทั้งนั้นทางผู้พัฒนาก็ยังไม่ได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเกมเพิ่มเติมเลยว่าจะมีทิศทางไปทางใดกันแน่ ผู้เล่นอย่างเราคงต้องไปรอลุ้นกันในเกมต่อไปค่ะ         Credit: Gameinformer

ปัจจุบันนี้มีเกมดีๆ ออกมากมายสนุกทั้งในเกมเพลย์ เนื่อเรื่อง เสียงเพลง หรือกระทั่งความอลังการของงานภาพ แต่เกมบางเกมเราไม่สามารถเล่นกับเพื่อนได้! มีหลายเกมที่ใส่โหมด Co-op แล้วมีปัญหาตามมามายครับ แต่ถ้าสามารถแก้ปัญหาเหล่านั้นได้ การที่เราสามารถเล่นเกมที่ดี และที่เรารักกับเพื่อนๆ ได้มันจะมีความสนุกขนาดไหนกันครับลองคิดดู วันนี้เรา GameFever TH ได้นำ 10 เกมออฟไลน์ที่ควรจะมีโหมดผู้เล่นหลายคน ( จะเป็นภาค DLC หรือภาคต่อไปผมเชื่อว่าแฟนๆ ร้องดีใจลากเพื่อนมาเล่นด้วยแน่นอนครับ ) เรามาดูกันครับว่ามีเกมอะไรบ้าง. 1.Horizon Zero Dawn Horizon Zero Dawn ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเกมล่ามอนส์สุดมันอย่างเกม Monster Hunter  ซึ่งนั่นก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทางเกมได้แสดงเคารพของพวกเขาด้วยการให้ Aloy ตัวเอกของเรื่องเข้าไปเป็นสกินในเกม Monster Hunter บน PS4  ซึ่งถ้าเกมนี้สามารถเล่น Online หรือ Co-op ได้บอกเลยว่าเราจะสนุกไปกับดารล่าหุ่นยนต์ไดโนเสาร์กับเพื่อนๆ แน่นอนเรียกได้ว่า ให้ความรู้สึกเหมือน Monster Hunter เลยนะครับ. 2.The Legend Of Zelda: Breath Of The Wild Legend Of Zelda: BreathOf The Wild ภาคแรกก็ให้เสียงตอบรับที่ดีแล้ว ซึ่งล่าสุดมีแฟนๆ จำนวนมากเห็นคลิปวีดีโอเปิดตัวตัวอย่างภาค 2 ทำให้เห็นว่า Link และ Zelda ออกเดินทางผจญภัยไปด้วยกัน ลองคิดดูว่าถ้าเราสามารถเล่นกับเพื่อนได้ สามารถช่วยกันปราบมอนส์เตอร์ และสำรวจ Hyrule เป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมากๆ เลย. 3.Final Fantasy VII Remake สำหรับเกม Final Fantasy VII Remake ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากๆ ในบรรดาแฟนๆ และหมู่นักวิจารณ์แต่มีความเห็นจากนักวิจารณ์บางกลุ่ม แนะนำว่า Final Fantasy VII Remake ควรมีโหมดผู้เล่นหลายคน ลองนึกภาพเรากับเพื่อนๆ ร่วมกันทำภารกิจบุกเมือง Midgar แล้วทำการบุกยึดเตาปฏิกรณ์ Shinra ในฐานะสมาชิก Avalanche ซึ่งบอกเลยว่าทั้งดูเท่ และมันแน่นอน ยิ่งถ้าเราเล่นกันแบบเป็นงานมีการออกคำสั่งคนนึงเก็บซ้าย เก็บตัวขวา บอกเลยว่าโึคตรเท่! 4.Middle-Earth: Shadow Of War เรียกได้ว่า Middle-Earth: Shadow Of War เป็นหนึ่งในเกมที่ไม่มีค่ายไหนสามารถพยายามที่จะเลียนแบบระบบของเกมนี้ได้เลย สำหรับคนที่รู้จักจะพอเข้าใจนะครับว่าเป็นนี้มันมีรายละเอียดเยอะมากๆ อันดับต้นๆ ของเกมแนวนี้เลยก็ว่าได้ครับ แล้วทีนี้มันจะเจ๋งแค่ไหนครับ ถ้าผู้พัฒนาจะเปิดโหมดใหม่หรือสร้างโหมดผู้เล่นหลายคนให้เราสามารถไปยึดถิ่น หรือรวบรวมกองทัพOrcs ของตัวเองยกทัพไปตีกันเอง หรือรวมมือกันหลายๆ กองทัพแล้วไปถล่มศัตรู โคตรเท่ โคตรอลังการ! 5.Marvel’s Spider-Man Marvel’s Spider-Man ถือว่าทำหลายๆ ส่วนได้ดีในหมดเกมแนว Spider-Man และมีผู้เล่นบางคนเอาเขาไปลง Mod ใน Grand Theft Auto V จึงได้มีหลายๆ คนเสนอแนวคิดของโหมดผู้เล่นหลายคน เช่น ให้ทีมหนึ่งอยู่ในกลุ่มอันธพาลเป็นวายร้าย ทีมหนึ่งเป็น Spider-man คอยขวัดขวางไม่ให้วายร้ายก่อเหตุสำเร็จ ซึ่งแนวคิดหลายๆ อย่างที่แฟนๆ เสนอไปผมเชื่อว่าทางผู้พัฒนาจะนำไปปรับปรุงและทำให้เกมเหล่านี้มีโหมดออนไลน์แน่นอนครับ. 6.Valkyria Chronicles 4 Valkyria Chronicles 4 ผมกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่าถ้าเกมนี้สามารถเล่นกับเพื่อนได้มันจะเพิ่มความสนุกได้หลายเท่าตัวเลยครับ เกมนี้จะเป็นเกมผสมกันระหว่าง กลยุทธ์ RPG Real-time Turn-Base เป็นเกมที่ผสมเยอะแต่ลงตัวครับ นึกภาพเราอยู่ในสนามรบจริงๆ มีเวลาคิดจำกัดต้องสื่อสารกันดีๆ ทุกฝีก้าว ซึ่งถ้าใครไม่เชื่อฟังความเห็นของเพื่อน หรือของหัวหน้าความซวยมาเยือนแน่นอนครับ แต่ซวยทั้งทีม เห็นมั้ยครับว่าแค่คิดก็สนุกแล้ว ถึงแม้ว่าเกมนี้จะออกมานานแล้ว แต่ในอนาคตถ้ามีภาค5 ผมเชื่อเลยครับว่าผู้พัฒนากำลังหาทางใส่โหมด Co-op ลงไปแน่นอนครับ. 7.Just Cause 4 ซีรีส์นี้สร้างขึ้นจากแนวคิดของการสร้างความโกลาหลด้วยการระเบิดครั้งใหญ่ที่จะทำให้ภาพยนตร์แอ็คชั่นกลิ่นอายยุค 80 แล้วจะเป็นยังไงครับถ้าคนที่จะมาสร้างความวอดวาย ความโกลาหลมีมากกว่าหนึ่งคน โดยการชวนเพื่อนมาทำภารกิจ แต่ว่าเรื่องนี้กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ครับ สำหรับเกมนี้เพราะถ้ามีผู้เล่นเพิ่มมาอาจจะทำให้เรื่องกราฟฟิค หรือเรื่องเกมเพลย์ที่สนุกน้อยลง ดังนั้นเราต้องมารอดูในอนาคตว่าผู้พัฒนาจะตัดสินในกับเรื่องนี้อย่างไรครับ. 8.Sekiro: Shadows Die Twice FromSoftware ค่ายที่สร้างสรรค์ผลงานเกมตระกูล Dark Souls มามากมาย หนึ่งในนั้นก็มีเกม Sekiro: Shadows Die Twice แต่สิ่งที่แตกต่างออกไปคือเกมนี้ไม่มีโหมด Co-op หรือโหมดออนไลน์เหมือนกับเกม Soul อื่นๆ แต่ผู้พัฒนาหันมาโฟกัสที่ระบบเนื้อเรื่องและเกมเพลย์ที่เพิ่มความเร็วขึ้นมากกว่าเกมอื่นๆ ในซีรี่ส์ แต่ถ้าลองคิดๆ ดูนะครับเวลาเราเจอบอสยักษ์ใหญ่ โหดๆ แล้วอยากได้เพื่อนซักคนมาคอยรุกคอยรับช่วยเราจะเป็นอะไรที่สนุกไปอีกระดับนึงเลยนะครับ ยิ่งถ้ามีลานประลองฝีมือก็ยิ่งได้วัดสกิลเพลย์กันได้ด้วย! 9.Shadow Of The Colossus Shadow Of The Colossus เป็นเกมที่มีเนื้อหาและเกมเพลย์ที่น่าสนใจ ถ้าเราสามารถสามารถต่อสู้กับเหล่ายักษ์ใหญ่ในเกมกับเพื่อนๆ ได้ล่ะครับมันจะเป็นยังไง คงได้ได้อารมณ์แบบเกม Monters Hunter ระดับนึงเลยแต่เกมนี้จะแฝงไปด้วยอะไรหลายๆ อย่างที่จะทำให้แตกต่างจากเกมอื่นๆ ซึ่งหวังหว่าในอนาคตที่เครื่อง PS5 ออกวางจำหน่ายเกมนี้จะมีภาคใหม่ๆ ที่มีระบบออนไลนฺ์ให้เราร่วมสนุกกับเพื่อนๆ ได้นะครับ. 10.Resident Evil 3 Remake อีกหนึ่งเกมที่ควรจะมีโหมด Co-op มากๆ ครับเพราะนอกจากเนื้อเรื่องที่เข้มข้นแล้ว เรายังได้เห็นความแอบหวานของจิลกับคาร์ลอส ซึ่งถ้าเราสามารถเล่นกับเพื่อน หรือเล่นกับแฟนอาจจะสนุกไม่ใช่น้อยเลยครับ ขอแค่โหมดเนื้อเรื่องซักนิด Mini-Games ซักหน่อยเหมือน Resident Evil 7 หลังจากเคลียร์เกม มีนักวิจารณ์บางท่านบอกมาว่าถ้าเป็นไปได้ก็ทำให้มีโหมด Co-op ในเกมไปเลยอาจจะเพิ่มความสนุกและโอกาสที่จะทำให้เกมเมอร์กลับไปเล่นซ้ำได้มากกว่าการทำ Project Resistance แบบออนไลน์เพราะตัวเกมภาคนี้สนุกก็จริง แต่ไม่ได้มีเนื้อเรื่องหรือความต่อเนื่องในการเล่นเท่าไหร่นัก ซึ่งหวังว่าในอนาคต resident evil ภาคต่อๆ ไปจะมีโหมด Co-op ให้เล่นกับเพื่อนได้ แบบนี้มีตกใจขว้างจอยพร้อมกันแน่นอนครับ555 Credit: Gamerant

Final Fantasy VII Remake เรียกได้ว่าเป็นเกม RPG ดังจากยุคเก่าที่กลับมาได้อย่างสมศักดิ์ศรีจริงในปี 2020 ตัวเกมเรียกได้ว่าทำออกมาดีมาก ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของเนื้อเรื่อง, เกมเพลย์, กราฟิก, หรือเพลงประกอบ ซึ่งล่าสุดเราก็สามารถซื้อเพลงประกอบของเกมมาฟังได้แล้ว ทั้งในรูปแบบ CD และไฟล์ Digital ครับ! เพลงประกับเวอร์ชั่น CD สามารถสั่งซื้อได้ผ่านหน้าเว็บไซต์ Square Enix Store ในราคา $77.77 ที่ตอนนี้ขึ้นว่าของขาดตลาดอยู่ แต่ที่ใครไม่อยากรอ ก็สามารถซื้อเพลงเหล่านี้ในรูปแบบไฟล์ Digital ผ่าน Amazon Music Store, Google Play Store, และ iTunes ได้เช่นกัน สามารถฟังแบบ Online ได้ถ้าหากเป็นสมาชิกของ Apple Music แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถฟังผ่าน Spotify ได้ครับ Final Fantasy VII Remake วางจำหน่ายแล้ววันนี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit : Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy VII ได้กลับมาอีกครั้งแล้วในฉบับ Remake ซึ่งการเป็นเกม RPG ที่อยู่คู่วงการเกมมากว่า 23 ปี ก็มีสิ่งที่เป็นมนต์เสน่ห์ของเกมอยู่ในใจของผู้เล่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นตัวละครที่น่าหลงใหล เกมเพลย์ที่สนุกลุ่มลึก และเพลงประกอบที่อยู่ในความทรงจำของเรื่องราวภายในเกม ********** อ่านตอนที่ 1 / อ่านตอนที่ 2 / อ่านตอนที่ 3 ********** “Inside Final Fantasy VII Remake” จะพาคุณไปพบกับมนต์เสน่ห์เหล่านั้นอีกครั้ง จากเบื้องหลังของผู้ที่สรรค์สร้างเกมนี้ขึ้นมา ในจุดเริ่มต้นของ “Project Final Fantasy VII Remake” ตอนที่ 4 ซึ่งว่าด้วยเรื่องของเพลงประกอบภายในเกม โดยจะแสดงให้เห็นถึงการทำงานและความคาดหวังของเหล่าผู้ประพันธ์เพลง ที่ต้องการมอบมนต์ขลังที่ไม่เสื่อมคลายนี้ให้กับผู้เล่นทุกคน - เพลงของ Final Fantasy VII นั้นมีเพลงที่อยู่ในความทรงจำของผู้เล่นมากมาย และเพลงเหล่านั้นก็ได้ถูกนำมาปรับปรุงใหม่ในฉบับ Remake ให้ไพเราะมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งหนึ่งในผู้รับผิดชอบการทำงานด้านเพลงประกอบในภาคนี้อย่างคุณ Keiji Kawamori (Music Supervisor) ก็ได้บอกว่าพวกเขามีการพูดคุยถึงฉากต่างๆ มากมาย ว่าในแต่ละฉากนั้นต้องการเพลงประกอบในอารมร์แบบไหนบ้าง - คุณ Mitsuo Suzuki (Composer) ได้เสริมถึงเพลงที่จะโต้ตอบกับผู้เล่น อย่างเช่นในเพลงประกอบบางฉากก็จะมีอยู่ 3 เวอร์ชั่น ซึ่งถึงแม้จะมีจังหวะและเมโลดี้ที่เหมือนกัน แต่ก็ได้มีการเรียบเรียงที่ต่างกัน จึงทำให้ถึงแม้จะเป็นเพลงเดียวกัน แต่ก็ให้ความรู้สึกที่ต่างกันไปในแต่ละฉาก ซึ่งคุณ Mitsuo ก็ได้เปรียบการทำงานในส่วนนี้ว่าเขาเหมือนเป็น DJ ที่ต้องเล่นเพลงให้เข้ากับบรรยากาศในตอนนั้น - คุณ Masashi Hamauzu (Composer) ได้พูดถึงเพลงที่แตกต่างกันในแต่ละฉากว่ามันจะช่วยเปลี่ยนความรู้สึกในระหว่างการเล่น อย่างเช่นการทำให้รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น หรือเพลงที่ทำให้เข้าถึงบรรยากาศในตอนนั้น คุณ Keiji จึงได้ยกตัวอย่างเพลง “Aerith Theme” ซึ่งในต้นฉบับนั้นจะมีแค่เวอร์ชั่นเดียว แต่ในคราวนี้จะมีทั้งเพลงในเวอร์ชั่นต่างๆ อย่างการใช้ในฉากที่สนุกสนาน ฉากที่รู้สึกเศร้า หรือฉากในชีวิตประจำวัน - การทำเพลงประกอบในเกมต้นฉบับนั้น มีข้อจำกัดทางด้าน Hardware ในสมัยนั้นอยู่ แต่ในปัจจุบันนั้นสามารถพัฒนาเพลงประกอบให้เข้ากับคัตซีนของเกมได้มากขึ้นแล้ว และนอกจากเพลงประกอบและคัตซีนที่เคยมีในต้นฉบับจะถูกปรับปรุงใหม่ ในเกมเวอร์ชั่น Remake ก็ยังมี เพลงประกอบใหม่และฉากคัตซีนใหม่ๆ มาควบคู่กันด้วย - สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการบรรเลงเพลงขึ้นมาใหม่ ก็คือส่วนทำนองของเพลง ซึ่งในปัจจุบันนั้นการเล่าเรื่องผ่านคัตซีนมีน้ำหนักมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนที่มีบทพูดประกอบเป็นส่วนใหญ่ จึงต้องทำให้ทำนองของเพลงสามารถเข้ากับเหตุการณ์ในฉากนั้นได้เป็นอย่างดีที่สุด และในเวอร์ชั่น Remake นี้ก็ยังได้คุณ Nobuo Uematsu มาช่วยแต่งเพลง Theme Song ของเกมด้วย ทำให้คุณ Keiji รู้สึกดีใจมาก และคิดว่าคุณ Uematsu คือคนที่ขาดไปไม่ได้สำหรับ Final Fantasy VII ซึ่งนอกจากจะเป็นผู้แต่งเพลงในฉบับดั้งเดิมแล้ว คุณ Uematsu ก็ยังช่วยให้คำแนะนำหลายๆ อย่าง ในการแต่งเพลงฉบับ Remake ด้วย - นอกจากเรื่องของเพลงประกอบแล้ว ส่วนที่ขาดไปไม่ได้ระหว่างการเล่นเกมก็คือเสียงประกอบ ซึ่งในส่วนนี้คุณ Makoto Ise (Soud Director) ก็ได้บอกว่าพวกเขามีการคิดค้นระบบที่เรียกว่า Masts ขึ้นมา ซึ่งเป็นระบบ AI ที่สามารถใส่เสียงการเคลื่อนไหวให้กับตัวละครหรือเสียงต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งถึงแม้จะฟังดูเป็นระบบที่สะดวกสบาย แต่ความจริงแล้วก็เป็นเรื่องที่ยากลำบากเหมือนกันในการคิดระบบนี้ขึ้นมา และพวกเขาก็ยังต้องเริ่มจากการบันทึกเสียงประกอบใหม่ทั้งหมด อย่างเช่น เสียงของอาวุธหรือเสียงวัตถุมากมายที่มีอยู่ในเกม - คุณ Masashi ได้เคยร่วมร้อง chorus ในเพลงประกอบของ Sephiroth ของเกมต้นฉบับมาก่อน นั่นจึงทำให้เป็นงานแรกที่เขาได้มีส่วนร่วมกับคุณ Uematsu ซึ่งจากตอนนั้นมาก็มีเพลงที่แฟนๆ ชื่นชอบกันอยู่มากมายจนถึงทุกวันนี้ แต่คุณ Keiji ก็อยากจะแสดงให้แฟนๆ รุ่นใหม่เห็นด้วยว่าเพลงของ Final Fantasy VII นั้นยอดเยี่ยมขนาดไหน และหวังว่าทุกคนจะสนุกกับเพลงประกอบที่เปลี่ยนไปในฉากต่างๆ โดยที่ยังคงมนตร์สเน่ห์ของ Final Fantasy VII ได้สำหรับคนทุกกลุ่มไม่เสื่อมคลาย

นิตยสาร Famitsu ของประเทศญี่ปุ่น ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์กับผู้พัฒนาตำแหน่ง Producer ของเกม Final Fantasy VII Remake คุณ Yoshinori Kitase ซึ่งกล่าวถึงตอนจบของเกม โดยคุณ Kitase ได้กล่าวขอบคุณแฟนๆ ทั่วโลกที่ร่วมกันสนับสนุนเกม และยังแสดงออกถึงความรู้สึกตื่นเต้นต่อท่าทีและความเห็นที่แฟนๆ จะมีต่อตอนจบของเกม และอนาคตของซีรี่ส์ Final Fantasy VII Remake ต่อไปในอนาคต "สำหรับแฟนๆ ที่เฝ้ารอเกมนี้มา 23 ปี ผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ที่ได้มีโอกาสทำให้ความหวังของทุกท่านได้เป็นจริง เกม FF7R อาจจะเป็นเกมเต็มตัว ที่สามารถสนุกได้ในตัวของมันเอง แต่มั่นใจได้เลยว่าเรื่องราวของเกมยังไม่จบง่ายๆ แน่นอน สำหรับเกมภาคแรกนี้ เราได้แสดงให้ทุกคนเห็นถึงความเป็นไปได้อันยิ่งใหญ่ของซีรี่ส์ในอนาคต และเราได้แทรกคำใบ้ถึงเหตุการณ์ที่กำลังจะตามมาไว้ในเกมมากมาย ที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป ในส่วนตัวผมเองรู้สึกตื่นเต้นมากว่าแฟนๆ จะมีทฤษฏีสนุกๆ อะไรมาถกเถียงกันทางสื่อโซเชี่ยล ผมและทีมงานจะยังคงรับฟังความเห็นของทุกคน เพื่อให้แฟนๆ ได้มีส่วนร่วมในการเติบโตของเกมในอนาคต" ผู้ที่ติดตามเกม Final Fantasy VII ภาคต้นฉบับมาตลอลด อาจจะรู้สึกผิดหวังกันบ้าง ที่เกมภาค Remake จะเปลี่ยนแปลงทิศทางไปจากที่หลายๆ คนคาดหวังเอาไว้ แต่ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบทิศทางใหม่ของผู้พัฒนา ก็ปฏิเสธยากว่าอนาคตของเกมภาค Remake นั้นน่าจับตามองเป็นอย่างมาก Final Fantasy VII Remake วางจำหน่ายแล้วสำหรับ PS4 เท่านั้น สำหรับคนที่สนใจเกม สามารถอ่านรีวิวของเราได้ ที่นี่ หรืออ่านเคล็ดลับต่างๆ สำหรับการเล่นเกม ที่นี่ Credit: Gaming Bolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

วางจำหน่ายกันไปเรียบร้อยแล้วกับเกม Final Fantasy VII Remake เกมที่คืนชีพตำนาน JRPG อันเป็นที่รักยิ่งของเกมเมอร์ทั่วโลก ให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง ด้วยระบบเกมเพลย์ กราฟฟิค และเนื้อเรื่องที่ใหญ่และใหม่กว่าเดิม ให้เหล่าผู้เล่นเก่าได้มีโอกาสหวนคืนสู่นคร Midgar ให้หายคิดถึง และยังเป็นการแนะนำผู้เล่นรุ่นใหม่ๆ ให้รู้จักกับหนึ่งในเกมที่มีอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์เกมยุคใหม่ถึงทุกวันนี้ หลังจากที่ได้เล่นเกมมาแล้ว (อ่านรีวิวของเราได้ ที่นี่) แม้ว่าเกม Final Fantasy VII Remake จะไม่ได้มีระดับความยากมากมายอะไรเป็นพิเศษ (อย่างน้อยก็ในโหมด Normal ที่ผู้เขียนเล่น) แต่ก็มีเคล็ดลับหลายอย่างที่ถ้าผู้เขียนรู้มาก่อนจะเริ่มเล่น ก็คงจะทำให้เล่นเกมง่ายขึ้น โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ ที่เรากำลังทำความเข้าใจกับระบบต่อสู้ของเกม ด้วยประการฉะนี้ ผู้เขียนจึงอยากจะมาแบ่งปันเคล็ดลับเล็กๆ ไม่กี่ข้อ ที่อยากจะแนะนำให้เพื่อนๆ ได้รู้เอาไว้ จะได้เล่นเกมอย่างไร้กังวลที่สุดจ้า! อย่าลืมใช้สกิล! อันนี้อาจจะฟังดูเหมือนเรื่องที่ไม่น่ามาบอกกัน แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อยมากสำหรับผู้เขียน ด้วยความที่ระบบต่อสู้มีความเป็นเกมแอคชั่นสูง ทำให้บางครั้งผู้เขียนมัวแต่ง่วนกับการเล่นเกมให้เป็นเกมแอคชั่น เช่นการกลิ้งหลบหรือป้องกันการโจมตีศัตรู หรือการทำคอมโบ ซึ่งส่งผลให้การต่อสู้กับศัตรูบางชนิดที่ควรจะง่ายและรวดเร็ว กลับกลายเป็นใช้เวลาและเลือดเนื้อ/ไอเทมมากกว่าที่จำเป็น ยิ่งในชั่วโมง-สองชั่วโมงแรกของเกมยิ่งต้องระวังไม่ให้ติดเป็นนิสัย เพราะศัตรูส่วนใหญ่จะยังอ่อนแอพอให้ฆ่าด้วยการโจมตีธรรมดาได้ แต่พอพ้นจากนั้นไป จะต้องพึ่งพาสกิลในแทบจะทุกการต่อสู้เลย กันไว้ให้ชิน แม้ว่าการกลิ้งหลบเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายไปเลย จะดูเหมือนทางเลือกที่ฉลาดกว่าการยืนกดป้องกันเพื่อลดความเสียหายที่ได้รับเท่านั้น แต่สิ่งที่ผู้เขียนค้นพบคือการกลิ้งหลบของเกม Final Fantasy VII Remake มี Invincibility Frame ดั่งที่มักจะพบในเกมแอคชั่นส่วนใหญ่อยู่น้อยมากๆ (หรืออาจจะไม่มีเลยด้วยซ้ำ) ทำให้การกลิ้งหลบการโจมตีที่รวดเร็ว หรือการโจมตีที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง ทำได้ยากกว่าที่หลายคนอาจจะคุ้นชินจากการเล่นเกมแอคชั่นอื่นๆ ในสถานการณ์ส่วนใหญ่ การยอมยืนกันและรับความเสียหายที่ลดลง จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า เพราะนอกจากจะได้รับความเสียหายน้อยลงแล้ว ยังทำให้เกจ ATB ของเราเพิ่มเร็วขึ้น และทำให้ตัวละครไม่ล้มลงอีกด้วย แน่นอนว่าการกลิ้งหลบยังคงจำเป็นสำหรับการโจมตีที่ป้องกันไม่ได้ หรือการโจมตีระยะไกลที่เคลื่อนที่ช้า และการโจมตีที่อาจจะทำให้ติดสถานะ เช่นพิษ ใบ้ เป็นต้น จงมี Materia Assess ติดตัวตลอดเวลา เมื่อคุณได้รับ Assess Materia มาจาก NPC ที่ชื่อ Chadley นั้น จงใส่มันลงไปในช่อง Materia ของ Cloud ซักช่องหนึ่ง และเก็บมันไว้ตรงนั้นจนจบเกม เจ้า Materia เม็ดนี้จะมอบความสามารถ Assess ให้กับตัวละครที่ใส่ ทำให้สามารถวิเคราะห์จุดอ่อนของศัตรูได้ เช่นเงื่อนไขในการเพิ่มเกจ Stagger ของศัตรูแต่ละชนิด ซึ่งทำให้การต่อสู้ในเกมนี้ง่ายขึ้นหลายเท่า เพราะศัตรูเก่งๆ บางตัวอาจจะมีจุดอ่อนแปลกๆ เช่นต้องโจมตีจากด้านหลังเท่านั้น หรือต้องใช้การโจมตีนี้ในจังหวะนี้เท่านั้น ไม่งั้นจะทำความเสียหายไม่ค่อยได้ เป็นต้น นอกจากนี้ ยิ่งเราใช้สกิล Assess ใส่ศัตรูหลายชนิด Chadley ก็จะเริ่มพัฒนา Materia ชนิดใหม่ๆ มาขายให้เราอีกที แถมถ้าทำไปเรื่อยๆ ยังอาจจะปลดล๊อค VR Battle ให้เราลองสู้กับบอส Summon ต่างๆ และเอามันมาเป็นพวกได้ด้วย เคล็ดลับอย่างหนึ่งที่เกมไม่ได้บอก (หรืออาจจะบอกแล้วผู้เขียนพลาดไป) คือเมื่อคุณลองใช้ Assess ใส่ศัตรูครั้งหนึ่ง คุณจะสามารถเรียกดูหน้าต่างรายละเอียดศัตรูชนิดนั้นได้ทันที ด้วยการกด Touchpad เมื่อพบศัตรูชนิดนั้นๆ ในการต่อสู้ จะได้ไม่เหมือนผู้เขียน ที่เล่นไปครึ่งเกมโดยที่คอยกด Assess ใหม่ทุกครั้งเวลาต้องการอ่านจุดอ่อนศัตรู... เพิ่มเลือดปาร์ตี้อย่างรวดเร็วด้วยปุ่ม L1 ผู้เล่นบางคนอาจจะหงุดหงิด เวลาที่ต้องการจะใช้ไอเทมหลายชิ้น แต่เกมบังคับให้เปิดเมนูใหม่ทุกครั้งที่กดใช้ไอเทมหนึ่งชิ้น แต่จริงๆ แล้วเราสามารถเปิดเมนูค้างเอาไว้ได้ด้วยการกดปุ่ม L1 ค้างเอาไว้ในตอนที่ใช้ไอเทม เราจะได้กดใช้ไอเทมได้หลายๆ ครั้ง หรือกระทั่งสลับไปยังตัวละครอีกตัวได้เร็วๆ พยายามใช้ตัวละครระยะไกลในการฮีล แม้ว่าผู้เล่นจะสามารถมอบ Heal Materia ให้กับตัวละครไหนก็ได้ แต่ผู้เขียนพบว่าการมอบ Materia ให้กับตัวละครที่โจมตีระยะไกลอย่าง Barret และ Aerith เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะพวกเขามักจะยืนห่างจากศัตรู และมีโอกาสโดนขัดจังหวะร่ายสกิลน้อยกว่า Cloud หรือ Tifa โดยเฉพาะในช่วงท้ายเกม ที่ศัตรูเริ่มท้าทายและดุดันมากขึ้น นอกจากนี้ ในเวลาฉุกเฉิน ผู้เล่นสามารถสลับมาควบคุมตัวละคร Barret และ/หรือ Aerith ด้วยตัวเองเพิ่มเพิ่มเกจ ATB ของตัวละครจากระยะปลอดภัยได้ด้วย ในจังหวะที่ต้องฮีลเยอะๆ จะได้ทำได้เร็วขึ้น ใช้สกิล Pray บ่อยๆ เมื่อพูดถึงการฮีล ตัวละคร Aerith จะมาพร้อมกับ Materia เม็ดหนึ่งที่มอบความสามารถ (Ability) Pray ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถฮีลเพื่อนทั้งปาร์ตี้พร้อมๆ กันได้โดยไม่เสีย MP โดยผู้เขียนมักจะลืมว่ามีสกิลนี้อยู่ และเพิ่มเลือดโดยใช้ Cure/Cura แทนบ่อยๆ ซึ่งเปลือง MP และ Ether มาก แน่นอนว่าด้วยความเป็น Materia จะใส่ให้ตัวละครไหนก็ได้ แต่ตามที่กล่าวไปข้างบน การฮีลในเกมนี้ควรปล่อยเป็นหน้าที่ของตัวละครระยะไกลอย่าง Aerith และ Barret อยู่แล้ว การทิ้ง Materia Pray เอาไว้กับ Aerith จึงถือเป็นทางเลือกที่ง่ายที่สุด แก้ไข: มีผู้อ่านท่านหนึ่งแก้ไขข้อมูลมาว่า Pray เป็น Materia ไม่ใช่สกิลติดตัวของ Aerith ซึ่งผู้เขียนได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว ผู้เขียนอาจจะลืมเองเพราะใส่ Materia เอาไว้กับ Aerith ตลอดเวลา ขอขอบคุณสำหรับข้อแก้ไขด้วยครับ เก็บท่า Overcharge ของ Barret ไว้สำหรับเวลาจำเป็น สำหรับผู้เขียน ความสามารถ Overcharge ของ Barret เป็นหนึ่งในความสามารถที่ดีที่สุดในเกมเลย นอกจากจะสร้างความเสียหายได้รุนแรงในระยะเวลาสั้นๆ แล้ว การโจมตีนี้ยังทำให้หลอด Stagger ของศัตรูเพิ่มขึ้น และที่สำคัญที่สุด Overcharge ยังทำให้เกจ ATB ของ Barret เพิ่มขึ้นเมื่อใช้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้เอง ความสามารถนี้จึงมีประโยชน์มากในหลายๆ สถานการณ์ เช่นถ้าต้องการฮีลอย่างเร่งด่วน แต่ไม่มีใครมีเกจ ATB สามารถสลับมาเล่น Barret และเพิ่มเกจตัวเองอย่างรวดเร็ว เพื่อฮีลในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ หรือถ้าศัตรูติดสถานะ Stagger การใช้ Overcharge ก็จะทำความเสียหายมหาศาลใส่ศัตรู ทำให้เกจ Stagger เพิ่มขึ้นเพื่อให้เพื่อนๆ มาช่วยลงแขกได้นานขึ้น และยังทำให้มีเกจ ATB ไว้ให้ Barret ใช้ท่าใหญ่ๆ ซ้ำได้อีกด้วย สกิล Triple Strike ของ Cloud สามารถทำความเสียหายได้มากกว่าหนึ่งครั้งต่อศัตรูหนึ่งตัว เคล็ดลับหนึ่งที่ผู้เขียนชอบใช้เวลาเล่น Cloud คือการรอให้ศัตรูมายืนกระจุกกันเป็นกลุ่ม แล้วใช้สกิล Triple Strike เพื่อโจมตี โดยสำหรับสกิล Triple Strike นั้นจะทำให้ Cloud พุ่งไปฟันศัตรูในบริเวณใกล้ๆ กัน 3 ตัว แต่สิ่งที่เกมไม่ได้บอกคือ ศัตรูหนึ่งตัวสามารถโดนความเสียหายจาก Triple Strike ได้มากกว่าหนึ่งครั้ง ถ้าพวกมันยืนอยู่ใกล้กันมากพอที่จะโดนดาบของ Cloud เมื่อเขาแกว่งฟันตัวแรก และถ้ามันอยู่ใกล้กันมากพอเป็นกลุ่มๆ เราก็จะสามารถสร้างความเสียหายมหาศาลใส่ศัตรูทั้งกลุ่ม แลกกับเกจ ATB ช่องเดียวเท่านั้น อย่าลืมเปิด Unbridled Strength ให้ Tifa ตัวละคร Tifa จะมาพร้อมกับสกิลติดตัวที่ชื่อว่า Unbridled Strength ซึ่งจะบัฟการโจมตีปกติและเพิ่มความเสียหายเมื่อใช้ Ability ต่างๆ ของเธอ และทำให้ท่าพิเศษ (ปุ่มสามเหลี่ยม) ของเธอเปลี่ยนไปตามจำนวนครั้งที่กด Unbridled Strength (สูงสุดสองครั้ง) โดยหลายคนอาจจะมองข้ามสกิลนี้ไปเพราะเกมไม่ได้บอกชัดเจนว่าทำอะไรได้ แต่ในความเป็นจริง การใช้สกิลนี้ควบคู่กับท่าโจมตีอื่นๆ ของเธอ ทำให้ Tifa เป็นตัวละครที่สามารถทำความเสียหายในขณะที่ศัตรู Stagger อยู่ได้มหาศาล มีประโยชน์มากๆ ในการต่อกรกับเหล่าบอสในเกม ที่ถ้าไม่ได้ Stagger แล้วจะโดนความเสียหายน้อยมาก คอมโบง่ายๆ สำหรับ Tifa คือการใช้สกิล Unbridled Strength เตรียมไว้ก่อนสองครั้ง เมื่อศัตรูติดสถานะ Stagger แล้ว ให้สลับมาควบคุม Tifa และกดใช้ท่าโจมตีสามเหลี่ยมของเธอติดๆ กันสองครั้ง (จะเป็นท่า Rise and Fall และ Omnistrike) ซึ่งจะช่วยเพิ่มเกจ Stagger ของศัตรูรวมกัน 45% และทำให้เกจ ATB ของ Tifa กลับมาเต็มสองช่องอีกครั้งด้วย ซึ่งเราสามารถวนคอมโบนี้ได้เรื่อยๆ (กด Unbridled Strength สองครั้งอย่างรวดเร็ว ต่อด้วยท่าสามเหลี่ยมสองครั้ง) จนกว่าศัตรูจะหายจากสถานะ Stagger เลย หรือถ้าใครมีสกิล True Strike จากอาวุธ Purple Pain แล้ว จะใช้ควบคู่กับคอมโบนี้เพื่อเพิ่มหลอด Stagger ก็ได้เช่นกัน ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

อาจจะมีบางคนกำลังประสบปัญหาการซื้อเกม Final Fantasy VII Remake ผิดเวอร์ชัน เพราะหน้าร้าน Store ของโซน SEA บ้านเราอาทิ ไทย, สิงค์โปร, อินโดนิเซีย และมาเลเซีย มีการวางจำหน่ายเวอร์ชันตัวเกมหลายภาษาทั้ง จีน/เกาหลี และ อังกฤษ/ญี่ปุ่น มันเลยทำให้หลายๆ คนอาจจะเผลอกดซื้อผิดเวอร์ชันได้ เช่นอยากจะซื้อเวอร์ชั่น อังกฤษ/ญี่ปุ่น แต่บังเอิญซื้อผิดเป็นเวอร์ชัน จีน/เกาหลี เป็นต้น แต่ตอนนี้ทาง Sony ประกาศออกมาแล้วสำหรับใครที่ซื้อผิดเวอร์ชั่นคุณสามารถเรียกร้องขอคืนเงินได้ ถ้าหากคุณซื้อตัวเกมผิดเวอร์ชั่นก่อนวันที่ 8 เมษายน 2020 ที่ผ่านมา ซึ่งคนที่มีเงื่อนไขครบได้รับการคืนเงินให้เป็น PlayStation Wallet ส่วนคนที่ซื้อเกมผิดหลังจากวันที่กำหนดในบางโซนเช่นฮ่องกงที่มีปัญหา ก็อาจจะสามารถติดต่อ Support ได้แต่จะดูเป็นกรณีไป ที่มา siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วกับวันวางจำหน่ายภาค Remake ของเกม RPG ในตำนานอย่าง Final Fantasy VII Remake ซึ่งหลังจากที่มีการเปิดตัวไปเมื่อหลายปีก่อน ในที่สุดอีกไม่ถึง 3 วันเราก็จะได้สัมผัสเกมนี้กันแล้ว แต่ว่าการกลับมาในครั้งนี้ ก็ได้ทำการเปลี่ยนระบบการเล่นของเกมไปมากพอสมควรเลย รวมไปจนถึงเนื้อเรื่องของเกมที่มีการดัดแปลงไปบ้างเช่นกัน จนแฟนๆ ซีรีส์นี้บางคนเริ่มไม่แน่ใจแล่วว่า ควรจะซื้อเกมภาค Remake นี้มาเล่นดีรึเปล่า แน่นอนว่าในเมื่อเป็นเกมที่ใครหลายคนต่างเฝ้ารอแบบนี้ มันก็ต้องถูกส่งให้กับทางสื่อต่างๆ ได้ทำการเล่นก่อน เพื่อที่จะได้สามารถเขียนรีวิวได้อยู่แล้ว เพื่อให้ง่ายขึ้นต่อการตัดสินใจสำหรับแฟนๆ หรือผู้เล่นหน้าใหม่สำหรับซีรีส์นี้ ว่าจะซื้อ FFVII Remake มาเล่นดีรึเปล่า ทางเราจึงได้ทำการรวบรวมคะแนนรีวิว ของสื่อต่างประเทศมาให้ได้ดูกัน โดยคะแนนดังกล่าวก็ได้มากจากเว็บไซต์ Metacritic เจ้าเดิม และเกมนี้ก็ได้คะแนนเฉลี่ยสูงถึง 87 เลยด้วยครับ PlayStation Universe  90/100 GamesRadar+  90/100 DualShockers 85/100 IGN 80/100 Push Square 80/100 VG247 80/100 USgamer 70/100 จากเท่าที่เห็นจากคะแนนรีวิวทั้งหมดแล้ว สื่อต่างๆ ให้คะแนนเกมนี้อยู่ในช่วง 80-90 ซะส่วนใหญ่ มีน้อยมากๆ ที่จะให้คะแนนเกมนี้ตำกว่า 80 โดยไม่ว่าจะเป็นค่ายที่ให้คะแนนเยอะ หรือว่าน้อย มีหนึ่งเรื่องที่ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน นั้นก็คือระบบต่อสู้แบบ Real Time Action ของเกม มันเป็นอะไรที่สนุกมากๆ ตัวละครแต่ละตัวมีความสามารถที่แตกต่างกัน ซึ่งการสลับควบคุมแต่ละตัว เพื่อต่อสู้ในสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มันเป็นอะไรที่สนุกมากๆ ต้องยอมรับเลยว่าผู้พัฒนา ทำระบบนี้ออกมาได้ดีจริง ทาง VG247 ถึงขนาดบอกว่า "นี้คือเกมที่ที่ทำ Combat System ในเกมรูปแบบ 3D ของซีรีส์ Final ได้ดีที่สุด" เลยด้วยครับ อีกเรื่องที่หลายๆ สื่อชื่นชมเกมนี้ก็คือในเรื่องขององค์ประกอบเกมที่ทำออกมาได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นกราฟิกที่สวยงาม, เพลงประกอบที่ไพเราะ, หรือรายละเอียดของสิ่งต่างๆ ที่ทำออกมาได้เป็นอย่างดี ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่า ถ้าเอาแค่เรื่องเกมเพลย์ กับภาพ แล้วละก็ Final Fantasy VII Remake นับเป็นหนึ่งในเกมที่ยอดเยี่ยมมากๆ เลยก็ว่าได้ ทางด้านข้อเสียหลายสื่อก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน นั้นก็คือตัว Side Quests ของเกมที่ทำออกมาได้น่าเบื่อมากๆ คือมันไม่สมเหตุสมผลเลย กับการที่ทหารรับจ้างอย่าง Cloud ถูกขอให้ไปตามหาเด็กที่หลงทาง, จัดการกับหนูท่อ, หรือตามหาไอเทมอะไรก็ไม่รู้ แถม Side Quests ต่างๆ ก็แทบจะไม่มีเนื้อเรื่องเลย มันเหมือนกับเล่นเกม MMORPG ที่ไปต้องเดินไปคุยกับ NPC รับเควส ทำ แล้วก็ส่ง แต่จะแตกต่างกันก็ตรงที่มัน Offline เท่านั้น หลังจากที่ได้อ่านรีวิวไปแล้วก็บอกได้เลยว่าเกมนี้มีดีเยอะมากๆ คือถ้าเอาแค่เกมเพลย์อย่างเดียวรับรองว่าดีมากๆ แน่นอน แต่ยังไงคนที่จะตัดสินว่าเกมนี้สนุกรึเปล่าก็คือตัวผู้เล่นเองครับ แล้วรออ่านรีวิวจาก GameFever ได้เร็วๆ นี้จ้า! ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

หลังจากที่ปล่อยให้แฟนๆ รอกันแทบจะข้ามยุคคอนโซล ในที่สุดเกมเมอร์ทั่วโลกก็ใกล้จะได้สัมผัสกับเกม Final Fantasy VII Remake เต็มทีแล้ว ด้วยวันวางจำหน่ายของเกม ที่อยู่ห่างออกไปอีกเพียงหนึ่งสัปดาห์เท่านั้น (แม้ว่าหลายๆ คนอาจจะได้แผ่นหลุดกันมาบ้างแล้วอ่านะ...) ล่าสุด เพื่อเรียกน้ำย่อยแฟนๆ ครั้งสุดท้ายก่อนเกมวางจำหน่าย ทางผู้พัฒนาและจัดจำหน่าย Square Enix ได้ปล่อยวีดีโอตัวอย่างใหม่ล่าสุดของเกมออกมาให้ชมกัน ซึ่งอัดแน่นไปด้วยเกมเพลย์และฉากคัตซีนใหม่ๆ ที่ไม่เคยแสดงที่ไหนมาก่อน ให้ดูกันเพลินๆ ถึง 4 นาทีกว่าไปเลย สำหรับแฟนๆ ที่เคยเล่นเกมภาคดั้งเดิมมาแล้ว น่าจะมีอะไรให้คิดถึงกันพอสมควรเลย ส่วนคนที่ยังไม่เคยเล่นมาก่อน ตัวอย่างนี้ถือเป็นการแสดงให้เห็นภาพโลกของเกม รวมไปถึงเหล่าตัวละครหลักที่เราจะพบในเกมได้เป็นอย่างดี (คำเตือน: อาจจะมีรายละเอียดเนื้อเรื่องหลายอย่าง ที่เกมเมอร์อาจจะรู้สึกเป็นการสปอย) ยิ่งเห็นอย่างนี้แล้ว ยิ่งแทบจะอดใจรอไม่ไหวเลย ขอหลับแล้วตื่นมาเล่นเกมอาทิตย์หน้าเลยได้ไหมนะ! Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 เท่านั้น Credit: Gaming Bolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่  

Final Fantasy 7 Remake คือหนึ่งในเกมที่ผู้เล่นทั่วโลกกำลังจับตามองอยู่ และด้วยความที่ตัวเกมนั้นถูกส่งไปยังประเทศต่างๆ เร็วขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่าผู้เล่นทุกคนจะได้สัมผัสเกมนี้อย่างแน่นอนในวันที่วางจำหน่าน ก็เลยทำให้เกิดเหตุการแผ่นหลุดมากมายอย่างที่เห็นก่อนหน้านี้ แต่ถึงแม้ว่าตัวแผ่นของเกมจะหลุดออกมาในตลาดจนถึงขนาดว่ามีคนสามารถเล่นเกมนี้ได้แล้วในตอนนี้ ก็ดูเหมือนว่าตัว Digital จะไม่มีการวางจำหน่ายก่อนกำหนดอย่างแน่นอนครับ! Square Enix ได้ออกมาบอกอย่างเป็นทางการว่า "เราทราบดีว่าการส่งแผ่นให้กับร้านค้าต่างๆ ก่อน มันคงเป็นเรื่องยากที่จะควบคุมไม่ให้มีแผ่นหลุดออกมาเลยได้ แต่ไม่ว่ายังไงทางเราก็ยังยืนยันคำเดิมว่าตัวเกมจะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 ดังนั้นผู้เล่นจะสามารถเล่นเกมผ่านระบบ Digital ได้ในวันที่ 10 เมษายน 2020 เท่านั้น" แต่ในบ้านเราผู้เขียนยังไม่เห็นข่าวว่ามีแผ่นหลุดออกมาเลย ดังนั้นถ้าผู้พัฒนาเขาว่าวันที่ 10 ก็คงต้องเป็นไปตามนั้นครับ! Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายน 2020 นี้บนเครื่อง PS4 เท่านั้น Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เช่นเดียวกับเกมฟอร์มยักษ์หลายๆ เกมในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เกม Final Fantasy VII Remake จะต้องใช้พื้นที่ในการโหลดเกมกว่า 100GB เลยทีเดียว แม้ว่ามองเผินๆ อาจจะไม่ใช่เรื่องน่าแปลก แต่ต้องไม่ลืมว่าส่วนใหญ่เกมที่ใช้พื้นที่มากขนาดนั้น มักจะเป็นเกมโลกเปิดที่มีเนื้อหาเยอะมากๆ อย่าง Red Dead Redemption 2 หรือ Assassins Creed: Odyssey ซึ่งเกม Final Fantasy VII Remake ไม่น่าจะเปิดกว้างเท่าเกมเหล่านั้นแน่ๆ หนำซ้ำเกมยังเป็นเพียงส่วนหนึ่งของเนื้อเรื่องทั้งหมดของ Final Fantasy VII อีกต่างหาก จึงน่าสงสัยว่าเหตุใดเกมจึงต้องใช้เนื้อที่มากขนาดนั้น ล่าสุด ผู้พัฒนาเกมได้ตอบคำถามนี้แล้วในบทสัมภาษณ์ระหว่างคุณ Naoki Hamaguchi (ผู้กำกับร่วม) กับสื่อ USgamer โดยคุณ Naoki เปิดเผยว่า เหตุผลที่เกมมีขนาดไฟล์ใหญ่ขนาดนั้น เป็นเพราะผู้พัฒนาต้องการจะสร้าง Asset เฉพาะสำหรับพื้นที่ต่างๆ ของเกมนั่นเอง สำหรับคนที่อาจจะไม่ทราบ คำว่า Asset หมายถึงโมเดลสิ่งของต่างๆ ในเกม เช่นก้อนหิน ต้นไม้ ถังขยะ เสาไฟ หรือกระทั่งหน้าตาของ NPC ที่ผู้เล่นจะสามารถมองเห็นได้ ซึ่งเกมส่วนใหญ่มักจะนำ Asset เหล่านี้มาใช้ซ้ำกันหลายครั้งในเกมเพื่อประหยัดเนื้อที่ และเพื่อให้ผู้พัฒนาไม่ต้องนั่งสร้างสิ่งของประกอบฉากขึ้นมาใหม่ทุกครั้งที่จำเป็นต้องใช้ อย่างในกรณีของ Final Fantasy VII Remake คุณ Naoki กล่าวว่าผู้พัฒนาได้สร้างชุด Asset ใหม่ขึ้นสำหรับทุกพื้นที่ต่างๆ ในเกมโดยเฉพาะ เช่น NPC ที่เห็นในเขตหนึ่งของ Midgar ก็จะไม่เหมือนกับ NPC ในอีกเขตหนึ่งอย่างชัดเจน ทำให้ผู้พัฒนาสามารถแสดงออกถึงความแตกต่างระหว่างพื้นที่นั้นๆ ได้อย่างชัดเจน "เราเลือกใช้ฉากหลัง เพลงประกอบฉาก และตัวละครประกอบฉากที่แตกต่างกันทั้งหมดในแต่ละสถานที่ ซึ่งให้ประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ทั้งสำหรับผู้เล่นและผู้พัฒนา" ทั้งหมดนี้ก็คือเหตุผลที่ทำให้เกม Final Fantasy VII Remake มีขนาดไฟล์ใหญ่เป็น 100GB นั่นเอง คงต้องรอดูตอนเกมวางจำหน่ายวันที่ 10 เมษายนนี้ว่าจะสมราคาคุยของผู้พัฒนาหรือไม่! Credit: IGN ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

หลังจากที่พูดถึงเนื้อเรื่อง ตัวละคร และแนวคิดเบื้องหลังการออกแบบเกมไปแล้วในสองตอนที่ผ่านมา (อ่านบทสรุปภาษาไทยตอนที่ 1 และ 2) ล่าสุดทางผู้พัฒนา Square Enix ได้ปล่อยวีดีโอสารคดี Inside Final Fantasy VII Remake ตอนใหม่ออกมาแล้ว โดยในตอนล่าสุดนี้จะเน้นไปที่การอธิบายระบบเกมเพลย์ทั้งหมดในเกม ภายในคลิปวีดีโอจะมีบทสัมภาษณ์กับผู้พัฒนาระดับสูงมากมาย ที่จะพูดถึงการเล่นเกมในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบต่อสู้แบบใหม่ ที่พยายามจะผสมผสานเสน่ห์ของเกมแอคชั่น เข้ากับระบบ ATB อันเป็นเอกลักษณ์ของเกมภาคต้นฉบับ ไปจนถึงระบบการพัฒนาตัวละครด้วย Materia และระบบเควสเสริมใหม่ของเกม คลิปเปิดมาด้วยบทสัมภาษณ์ของคุณ Tetsuya Nomura (Director) ผู้อธิบายถึงเหตุผลในการเลือกใช้ระบบต่อสู้ที่เน้นแอคชั่นมากขึ้น โดยเขาอธิบายว่าค่ายเห็นว่าการควบคุมแบบแอคชั่นดูจะเป็นมาตรฐานหนึ่งของเกมสมัยใหม่ นอกจากนี้ ทางทีมพัฒนายังต้องการที่จะทำให้การเล่นเกมมีความลื่นไหลมากขึ้น และทำให้ประสบการณ์ของผู้เล่นไม่โดนขัดจังหวะ เช่นเวลาต้องเปลี่ยนฉากเข้า-ออกการต่อสู้เหมือนในเกมต้นฉบับ ทำให้การควบคุมแบบแอคชั่นตอนโจทย์ความต้องการนี้ ในขณะเดียวกัน ทีมพัฒนาก็ต้องการจะรักษาเอกลักษณ์ความเป็น RPG ของ Final Fantasy เอาไว้ รวมทั้งระบบ ATB อันเป็นเอกชักษณ์ของภาค 7 โดยเฉพาะอีกด้วย ทีมจึงต้องพยายามอย่างมากในการหาจุดตรงกลางระหว่างความคลาสสิคนั้น และความเป็นเกมแอคชั่นสมัยใหม่ ซึ่งผลลัพธ์ก็คือระบบต่อสู้ที่ให้ผู้เล่นสามารถเลือกสมดุลระหว่างความเป็นแอคชั่นและ Turn-based ได้เอง โดยผู้ที่ชอบการเล่นแบบแอคชั่นมากหน่อยก็สามารถใช้ระบบคีย์ลัดในการใช้สกิลได้ ในขณะที่คนที่คิดถึงระบบ Turn-based แบบเดิมสามารถใช้การควบคุมแบบ Classic Mode ได้ หรือบางคนอาจจะชอบทั้งสองอย่าง ก็สามารถเล่นแบบปกติสลับกับเปิด Action Menu ก็ได้เช่นกัน Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 โดยเฉพาะ ทว่าเนื่องจากสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ทำให้ Square Enix จำเป็นต้องจัดส่งแผ่นเกมก่อนล่วงหน้าในบางพื้นที่ เช่นประเทศออสเตรเลีย ส่งผลให้ผู้เล่นในพื้นที่เหล่านั้นมีโอกาสได้เล่นเกมก่อนใครเพื่อน ใครเข้า Youtube ช่วงนี้ก็ระวังสปอยกันด้วยนะจ๊ะ! Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ด้วยปัญหาด้านการขนส่ง อันเนื่องมาจากมาตรการรับมือไวรัส COVID-19 ในหลายพื้นที่ ทำให้ในสัปดาห์ที่ผ่านมา Square Enix ต้องออกมาแถลงมาตรการรองรับ เพื่อให้แฟนๆ ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลกสามารถรับแผ่นเกม และเริ่มเล่นเกมพร้อมกับคนอื่นได้ทันวันวางจำหน่าย วันที่ 10 เมษายนนี้ ล่าสุด ดูเหมือนว่ามาตรการรองรับของ Square Enix จะไม่ได้เจาะจงเฉพาะผู้ที่สั่งซื้อเกมแบบแผ่นอย่างเดียว แต่ยังครอบคลุมไปถึงผู้ที่สั่งซื้อเกมแบบดิจิตอลทางร้านค้า PS Store อีกด้วย เมื่อล่าสุดมีผู้ใช้เว็บบอร์ด Resetera และ Reddit หลายคนรายงานว่า เวลา Pre-load (การดาวน์โหลดเกมล่วงหน้า) ของเกม Final Fantasy VII Remake ได้ถูกเลื่อนขึ้นมาให้เป็นวันที่ 3 หรือ 4 เมษายนนี้ (ตามโซนของแต่ละคน) แทนที่จะเปิดให้โหลดก่อนหน้าวันวางจำหน่ายเพียง 1-2 วันตามปกติ [caption id="attachment_48721" align="aligncenter" width="1920"] ภาพจากผู้ใช้เว็บ Resetera[/caption] สำหรับเหตุผลในการเลื่อนวัน Pre-load ให้เร็วขึ้น น่าจะมาจากการที่ Sony ประกาศจะจำกัดความเร็วการดาวน์โหลดของ PSN เพื่อลดภาระการใช้อินเตอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก เนื่องจากขนาดของไฟล์เกมที่ใหญ่กว่า 100GB อาจจะทำให้หลายๆ คนต้องใช้เวลาโหลดเกมนานกว่าปกตินั่นเอง ทั้งนี้ เนื่องจากการตัดสินใจขนส่งแผ่นเกมล่วงหน้าไปให้หลายประเทศ อันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรับมือสถานการณ์ของ Square Enix เอง ทำให้ในขณะนี้มีแผ่นเกมหลุดออกมาในตลาดบ้างแล้วประมาณหนึ่ง และแน่นอนว่าย่อมมีวีดีโอและรูปภาพที่อาจจะสปอยเนื้อหาของเกมหลุดออกมาด้วยเช่นกัน ใครที่กลัวโดนสปอยอาจจะต้องระวังกันหน่อยนะจ๊ะ (หรือจะหาแผ่นหลุดมาเล่นซะเองก็ไม่ว่ากัน...) Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 โดยเฉพาะ Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

หลังจากที่ปล่อยให้แฟนเกมฝั่งตะวันตกเหงื่อตกกันอยู่ซักพัก จากข่าวการขาดตลาดของแผ่นเกม Final Fantasy VII Remake อันเนื่องจากปัญหาด้านการขนส่ง อันเป็นเหตุมาจากมาตรการป้องกันการระบาดของไวรัส COVID-19 ของหลายๆ ประเทศ ล่าสุดทาง Square Enix ได้ออกมาประกาศแล้วว่าค่ายได้ตัดสินใจแก้ปัญฆาดังกล่าว ด้วยการจัดส่งแผ่นเกมไปให้ร้านค้าในภูมิภาคยุโรป (EU) และออสเตรเลีย (AU) เร็วกว่ากำหนด ทำให้ผู้เล่นในพื้นที่ดังกล่าวอาจจะมีโอกาสได้เล่นเกมก่อนใครเพื่อน เนื่องจากมาตรการแก้ปัญหาดังกล่าวจะต้องพิจารณาเป็นเรื่องๆ ไป ทำให้ทาง Square Enix ไม่สามารถรับปากได้ว่าแผ่นจะไปถึงก่อนหรือหลังวันวางจำหน่าย แต่ค่ายก็หวังเพียงว่าผู้ที่ได้แผ่นเกมไปก่อน จะหลีกเลี่ยงการสปอยเนื้อหาในเกมต่อผู้เล่นคนอื่น สำหรับโซนอเมรีกา จะทำการจัดส่งแผ่นเกมตามกำหนดการเดิมภายในสัปดาห์นี้ โดย Square Enix ค่อนข้างมั่นใจว่าจะถึงมือผู้เล่นทันกำหนดการวางจำหน่ายแน่นอน ทั้งนี้ ในคำประกาศของค่ายไม่ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าในโซนเอเซีย แต่การที่หลายๆ ร้านในพื้นที่ต่างๆ จะได้แผ่นเกมล่วงหน้า ก็เพิ่มโอกาสที่จะมีร้านที่เอาแผ่นเกมออกมาขายช่วงหน้าเช่นกัน ใครที่ทรไม่ไหวอยากลองเล่นเกมก่อนใคร ลองไปสืบกันได้ เผื่อบางร้านบ้านเราจะมีแผ่นหิ้วเหลือๆ ให้สอยกับเขาบ้าง... Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 โดยเฉพาะ Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ด้วยสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ที่ยังไม่แน่นอน ทำให้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้พัฒนาเกมหลายค่ายประสบปัญหาเรื่องการจัดส่งแผ่นเกมไปยังร้านค้าในประเทศต่างๆ ที่อาจจะมีมาตรการรับมือโรคระบาดที่เข้มข้นเป็นพิเศษ หรืออาจจะถึงขั้นปิดประเทศ ส่งผลให้แผ่นเกมที่จะวางจำหน่ายในช่วงนี้หลายเกม จำเป็นต้องเผชิญสภาพขาดตลาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ล่าสุด หลังจากที่บอกให้แฟนๆ ทำใจกันมาตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ในที่สุด Square Enix ก็ออกมายืนยันชัดเจนแล้วว่าเกมเมอร์ฝั่งตะวันตก (โซน US และ EU) ควรจะต้องทำใจว่าแผ่นเกม Final Fantasy VII Remake จะขาดตลาดในพื้นที่เหล่านั้นแน่นอน อย่างน้อยก็ในอนาคตอันสั้นนี้ โดยแม้ค่ายจะยืนยันว่าจำนวนแผ่นเกมมีเพียงพอสำหรับความต้องการของผู้เล่นแน่นอน แต่ด้วยปัญหาด้านการขนส่ง ทำให้ค่ายไม่สามารถรับปากได้ว่าสินค้าจะไปถึงพื้นที่ต่างๆ ได้เมื่อไหร่ ในขณะนี้ หลายประเทศทั่วได้ออกมาตรการห้ามการเข้า-ออกประเทศ และจำกัดการขนส่งสินค้าที่ไม่จำเป็นต่อร้านค้าปลีก เพื่อเร่งรัดให้สินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตสามารถกระจายไปสู่ประชาชนได้อย่างรวดเร็วที่สุด จึงถือเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เกมจะถูกให้ความสำคัญน้อยเมื่อเทียบกับสินค้าอย่างอาหารหรือยานั่นเอง ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ทางผู้พัฒนาได้เปิดเผยเช่นกันว่ามีร้านค้าในบางพื้นที่ ที่ได้รับแผ่นเกมไปเก็บไว้เพื่อรอวันวางจำหน่ายเรียบร้อยแล้ว และมีหลายร้านที่เริ่มนำแผ่นเกมออกมาวางจำหน่ายล่วงหน้า ซึ่งค่ายยอมรับว่าคงไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด ใครมีเพื่อน พี่ น้อง เปิดร้านเกม ลองโทรไปถามดูนะจ๊ะว่าได้แผ่นเกมมาแล้วหรือยัง (แล้วทักมาบอกผู้เขียนด้วย...) Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 โดยเฉพาะ Credit: GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

สวัสดีแฟนๆ Final Fantasy VII ทุกท่าน เตรียมตัวกันพร้อมหรือยังสำหรับการสัมผัสความสนุกอีกครั้งในฉบับ Remake แน่นอนว่าความท้าทายอย่างแรกที่ต้องเจอในเกมเลยก็คือการต่อสู้กับบอสตัวแรก! ซึ่งหากคุณกำลังเป็นหนึ่งในผู้ที่กำลังประสบปัญหา พบว่าการต่อสู้กับบอสแมงป่อง Scorpion Sentinel นั้นยากเกินฝีมือไป ไกด์ฉบับนี้จะมาแนะนำวิธีต่อสู้ทั้งลักษณะการโจมตีของบอส รวมถึงวิธีหลบหลีก ซึ่งเชื่อว่าหากทุกคนได้ลองศึกษาดูแล้ว จะต้องกลับไปฝึกฝนและชนะกันได้ง่ายขึ้นอย่างแน่นอน ว่าแล้วเราก็ลองไปดูวิธีต่อสู้กับเจ้าบอสแมงป่องนักษ์นี้กันเลย! < สิ่งที่ควรรู้ในการสู้กับ Scorpion Sentinel > Scorpion Sentinel เป็นเครื่องจักรสังหารที่บริษัท Shinra สร้างเอาไว้เพื่อรักษาความปลอดภัยของเตาพลังงานมาโค โดยการต่อสู้กับมันนั้นจะมีการแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 Stage ซึ่งแต่ละสเตจก็จะมีท่าโจมตีที่เป็นอุปสรรคอยู่ สิ่งจำเป็นคือการเก็บเกจ ATB เพื่อใช้เวทมนตร์จะเป็นสิ่งที่ช่วยเหลือได้มาก วิธีจัดการคือการหาโอกาสใช้เวทมนตร์เพื่อทำให้มันล้มลงได้ง่ายขึ้น และรู้จักวิธีหลบท่าโจมตี แล้วหาจังหวะสร้างความเสียหายเพื่อให้มันเปลี่ยนไปยังสเตจต่อไปให้เร็วที่สุด แต่จะทำได้อย่างไรนั้น เราลองมาศึกษาดูวิธีกันไปทีละส่วนเลยครับ < ท่าโจมตีของ Scorpion Sentinel > Electrostomp ท่ากระทืบเท้าที่จะปล่อยไฟฟ้าออกมา สามารถป้องกันด้วยการกลิ้งหลบออกมานอกระยะ หรือเคาเตอร์กลับด้วยการใช้ Punisher Mode แต่จะแลกกับการที่ทำให้เราโดนความเสียหายไปด้วยเช่นกัน Target Scanner ทำแสกนศัตรูเพื่อล็อคเป้าหมาย หากโดนล็อคเป้าแล้วจะทำให้โดนโจมตีด้วยท่ายิงมิซไซล์ Mark 99 Launchers อย่างแม่นยำ หากโดนล็อคเป้าเอาไว้แล้วควรรีบโจมตีเพื่อให้การล็อคเป้าหายไป Mark 99 Launchers ท่ายิงไซล์ออกมาเป็นวงกว้าง ถ้าหากโดน Target Scanner ล็อคเป้าหมายเอาไว้ จะทำให้มีโอกาสหลบได้ยาก แต่วิธีหลบจริงๆ นั้นสามารถทำได้ โดยสามารถถอยออกมาให้พ้นระยะหรืออยู่ในพื้นที่โล่ง แล้วกลิ้งตัวหรือพุ่งเข้าไปหามันในตอนที่ปล่อยมิซไซล์ออกมาก่อนถึงตัว หากทำถูกจังหวะจะสามารถทำให้หลบการโจมตีได้ แต่การใช้วิธีหลบแบบนี้ต้องอาศัยเทคนิคการจับจังหวะให้ถูกต้องอยู่พอสมควร การโจมตีอีกรูปแบบหนึ่งในท่านี้ คือการที่มันจะกระโดดไปเกาะกำแพงและยิงมิซไซล์ออกมา วิธีแก้ง่ายๆ คือให้ดูจังหวะตอนที่มันเกาะถึงกำแพงแล้ว ให้กดใช้เวทยมนตร์โจมตีก่อนที่มันจะใช้ท่า จะทำให้เป็นการแคนเซิลการใช้ท่านี้ได้ทันที EM Field ท่าชาร์จพลังและปล่อยคลื่นไฟฟ้าออกมารอบตัว เมื่อใช้ท่านี้จะมีกระแสไฟฟ้าขึ้นที่พื้น ให้รีบถอยออกมาอยู่นอกระยะโดยเร็วที่สุด Mark 98 Cannons ท่ายิงปืนกลที่แขนทั้งสองข้าง มีระยะการโจมตีอยู่ที่ด้านหน้าและด้านข้าง หากหลบอ้อมไปด้านหลังจะสามารถรอดจากการโจมตีได้ Stinger Salvo ท่ากระทืบเท้าและโจมตีด้วยลำแสงที่หาง หากหลบไปด้านข้างหรือด้านหลังจะทำให้ไม่โดนการโจมตี Death Grip เมื่อใช้ท่านี้ มันจะจับตัวละครตัวใดตัวหนึ่งในทีมเอาไว้ ให้รีบใช้ตัวละครอีกตัวโจมตีก่อนที่มันจะทำการโจมตีออกมา Tail Laser ท่ายิงเลเซอร์ออกจากหาง เมื่อใช้ท่านี้มันจะทำการชาร์จพลังโดยมีกระแสไฟฟ้าป้องกันรอบตัว และมีเศษเหล็กหล่นลงมา 2 จุด หากเราอยู่ในระยะใกล้เกินไป จะทำให้โดนการโจมตีและกระเด็นออกมาโดยอัตโนมัติ สิ่งที่ทำได้ในท่านี้มีเพียงหลบอยู่หลังเศษเหล็กที่หล่นลงมา แล้วคอยเตรียมตัวให้พร้อมหลังจากมันโจมตีเสร็จเท่านั้น < วิธีต่อสู้กับ Scorpion Sentinel > Stage 1 ในสเตจแรกนี้มันจะเริ่มด้วยการใช้ท่า Electrostomp ให้เรากลิ้งหลบออกมาด้านหลัง หรือด้านข้าง และพยายามทำคอมโบของ “Operator Mode” และ “Punisher Mode” อย่างต่อเนื่องให้ครบทั้ง 2 ชุด จากนั้นให้ใช้ Abilities หรือ เวทมนตร์ จะสามารถทำให้มันล้มลงได้ ซึ่งถ้าหากเรามีเกจ ATB เพียงพอ สามารถโจมตีสลับกับการใช้ท่า Focused Thrust หรือใช้เวทมนตร์เพื่อทำให้มันเกิดการ Staggered และต่อคอมโบชุดใหญ่อีกได้ หากทำความเสียหายอย่างต่อเนื่องได้มาก ก็สามารถทำให้มันเปลี่ยนไปสู่สเตจต่อไปได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ต้องไม่ต้องกลัวท่าโจมตีอื่นเลย แต่ถ้าหากไม่สามารถทำความเสียหายได้มากพอในทีเดียว มันจะกระโดดไปเกาะกำแพง และยิงมิซไซล์ด้วยท่า Mark 99 Launchers และกลับมาใช้ท่าโจมตีอื่น ให้คอยสังเกตุและคอยหลบให้ดี Stage 2 เมื่อเริ่มสเตจนี้ มันจะอยู่ในระยะห่างกับเราพอสมควร ถ้าหากวิ่งเข้าไปหามันจะสามารถใช้ท่า Mark 99 Launchers ยิงมิซไซล์โดนใส่เราได้ แต่ถ้าเราใช้ Cloud ล็อคเป้าเอาไว้และกดสี่เหลี่ยม จะทำให้สามารถพุ่งเข้าไปประชิดตัวได้อย่างรวดเร็ว และทำให้มันไม่ยิงมิซไซล์ออกมา ในเวฟนี้มันจะใช้บาเรียป้องกันการโจมตีของเรา ทำให้ไม่สามารถโจมตีด้วยท่ากายภาพได้ โดยปกติแล้วต้องทำการโจมตี Field Generator ที่อยู่ใต้ท้อง แต่หากอ้อมไปด้านหลัง แล้วโจมตีด้วยเวทมนตร์ จะทำให้มีโอกาสทำให้บาเรียหายไปได้ในครั้งเดียว หลังจากบาเรียหายไปแล้วมันจะกระโดดไปใช้ท่า Mark 99 Launchers อีกครั้ง และเมื่อมันกลับมาจะเป็นการโจมตีสลับกับการกระโดดไปมา ถ้าหากคอยสร้างความเสียหาบแล้วระวังการโจมตีไปด้วย ก็จะไปสู่สเตจต่อได้โดยที่ไม่มีอะไรต้องกังวล Stage 3 เริ่มต้นสเตจนี้มันจะใช้ท่า Tail Laser โดยอัตโนมัติทันที ให้หลบอยู่หลังเศษเหล็กที่หล่นลงมาแล้วเตรียมตัวให้พร้อม เมื่อมันโจมตีเสร็จแล้วจะเริ่มใช้ท่าโจมตีสลับกันไประหว่าง Mark 99 Launchers , Mark 98 Cannons , EM Field และสลับกับการกระโดดไปมาอยู่กับที่เพื่อหามุมโจมตีเรา ให้คอยเข้าไปโจมตีทีละ 2-3 ครั้ง แล้วถอยหลบออกมาเพื่อระวังการโจมตี  เมื่อสร้างความเสียหายถึงจุดหนึ่งมันจะใช้ท่า Stinger Salvo เป็นการบอกให้รู้ว่าใกล้จะทำการเปลี่ยนไปสเตจต่อไปแล้ว Stage 4 มาถึงสเตจนี้ได้ก็ไม่มีอะไรยากแล้ว โดยหากใช้เวทยมนตร์หรือโจมตีขาหน้าทั้งสองข้างให้มันล้มได้อย่างรวดเร็ว ที่เหลือก็สามารถโจมตีปิดฉากรับชัยชนะมาอย่างง่ายดาย และขอแสดงความยินดีด้วยที่คุณสามารถปราบบอสตัวแรกของเกมได้แล้ว ปัจจัยสุดท้ายของการต่อสู้นั้นคือฝีมือและเทคนิคการเล่นของผู้เล่นแต่ละคนเอง ซึ่งไกด์การต่อสู้ฉบับนี้ เป็นเพียงการแนะนำวิธีการต่อสู้โดยรวมเท่านั้น หวังว่าใครที่ได้ลองศึกษาดูแล้ว จะนำเทคนิคบางอย่างไปใช้ และสนุกกับเกมกันได้มากขึ้นครับ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้พัฒนาและจัดจำหน่าย Square Enix ได้ปล่อยวีดีโอสารคดี Inside Final Fantasy VII Remake ตอนแรกออกมา ที่พูดถึงความรู้สึกของผู้พัฒนาต่อการสร้างเกมภาคใหม่นี้ (อ่านบทสรุปสารคดีตอนแรกแบบละเอียด ที่นี่) ล่าสุด Square Enix ได้ปล่อยวีดีโอสารคดีตอนที่สองออกมาแล้ว ซึ่งเน้นพูดถึงเนื้อเรื่องของเกม และยังพูดถึงตัวละครหลักอย่าง Cloud, Tifa, และ Aerith อีกด้วย วีดีโอเปิดมาด้วยบทสัมภาษณ์กับผู้พัฒนาตำแห่นง Producer คุณ Yoshinori Kitase ผู้ซึ่งกล่าวว่าเขาได้ลืมรายละเอียดของเกมภาคดั้งเดิมไปเกือบหมดแล้วก่อนที่จะเริ่มพัฒนาเกมภาคใหม่ เขาจึงกลับไปเล่นภาคดั้งเดิมเพื่อฟื้นความจำ และพบว่าผู้เล่นใช้เวลาในนคร Midgar จริงๆ น้อยมาก ต่างจากที่เขาจำได้ เขาจึงมีความต้องการที่จะทำให้ผู้เล่นสามารถสัมผัสกับนคร Midgar ในความทรงจำของเขา ต่อจากนั้น นักเขียนเนื้อเรื่องเกมคุณ Kazushige Nojima ก็เล่าถึงตัวละครของ Cloud โดยเขาเปิดเผยว่าในเกมภาคดั้งเดิมนั้น เขาออกแบบ Cloud ให้เป็นตัวละครพระเอกสุดเท่ในอุดมคติ แต่ในเกม Remake เขาได้ลงลึกไปถึงจิดวิทยาของตัวละคร ในฐานะผู้ที่ต้องการการยอมรับจากคนรอบข้าง ทำให้เขาต้องพยายามวางมาดเข้มตลอดเวลา โดยผู้เล่นจะมีโอกาสเห็นด้านอื่นๆ ของ Cloud มากขึ้น รวมไปถึงด้านที่อ่อนไหวของเขา คุณนักเขียนกล่าวต่อว่า เขาก็มีความกังวลเล็กๆ ว่าผู้เล่นเก่าจะรู้สึกอย่างไรกับการเปลี่ยนแปลงของตัวละคร Cloud แต่เขาก็ย้ำว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่จำเป็น เพราะเกมมีความสมจริงมากขึ้น ทำให้ทุกอย่างต้องใช้ความสมจริงมากขึ้นตาม นอกจากนี้ เขายังพูดถึงความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนวัยเด็กระหว่าง Cloud และ Tifa ที่จะถูกเล่าอย่างลึกซึ้งมากขึ้นในภาคใหม่ โดยเขายกตัวอย่างสถานการณ์ที่ Tifa ช่วย Cloud หาห้องพักในตึกเดียวกับเธอ ซึ่งเขาเล่าว่าเป็นฉากที่น่ารักมากๆ และหวังว่าผู้เล่นจะรู้สึกดีเมื่อได้สัมผัสกับฉากใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้าไปนี้ Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 แต่เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสในปัจจุบัน ทำให้แผ่นเกมอาจจะขาดตลาดในบางพื้นที่ (อ่านข้อมูลเพิ่มเติม) เพื่อนๆ สามารถอ่านความเห็นของเราจากการเล่นเดโมเกมตัวล่าสุดได้ ที่นี่ ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

บัญชีทวิตเตอร์ Square Enix Manga & Books ได้เปิดเผยเร็วๆ นี้ว่า แฟนๆ ของเกม Final Fantasy VII Remake จะสามมารถพบกับหนังสือ Final Fantasy VII Remake: World Preview ฉบับแปลภาษาอังกฤษได้ในวันที่ 8 กันยายน 2020 นี้ New title announcement! FINAL FANTASY VII Remake: World Preview will release in September 2020! A full-color jacketed hardcover featuring art and info on characters, settings, gameplay, and more! Pre-orders to come soon! https://t.co/IpkuBRVOkj pic.twitter.com/zE84MDQfXX — Square Enix Manga & Books (@SquareEnixBooks) March 22, 2020 หนังสือ Final Fantasy VII Remake: World Preview จะรวบรวมข้อมูลมากมายจากจักรวาลของเกม FF7 เอาไว้ ตั้งแต่ประวัติของตัวละครหลักอย่าง Cloud, Tifa, และ Aerith ไปจนถึงแรงบันดาลใจเบื้องหลังการออกแบบสถานที่ต่างๆ ในเกม และจะมีเรื่องสั้นจากเกมที่เขียนโดยคุณ Kazushige Nojima ผู้ซึ่งเคยเขียนเรื่องสั้นจาก FF7 รวมเล่มเป็นหนังสือ On the Way to a Smile: Final Fantasy VII (ปี 2014) และปัจจุบันรับหน้าที่เขียนบทให้กับเกมภาค Remake อีกด้วย หนังสือจะวางจำหน่ายทั้งในรูปแบบหนังสือปกแข็งและแบบดิจิตอล (E-book) ความยาว 128 หน้า โดยแบบปกแข็งจะวางจำหน่ายในราคา $24.99 (ราว 825 บาท) ส่วนแบบดิจิตอลจะมีราคา $16.99 (ราว 560 บาท) สามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ทางเว็บร้านค้าของ Square Enix (ลิงค์) Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 10 เมษายนนี้สำหรับ PS4 แต่ด้วยวิกฤติไวรัส COVID-19 ในขณะนี้ ทำให้แผ่นเกมอาจจะขาดตลาดในบางพื้นที่ (อ่านข้อมูลเพิ่มเติม) ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ท่ามกลางสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ที่ไม่แน่นอน ทำให้แม้กระทั่งบริษัทพัฒนาเกมหลายแห่งจำเป็นต้องอนุญาติให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัส และบริษัทล่าสุดที่ประกาศให้พนักงานทำงานจากบ้านอย่างเต็มรูปแบบก็คือ Square Enix นั่นเอง CEO ของบริษัท Square Enix สาขาอเมรีกาและยุโรป คุณ Phil Rogers ได้ปล่อยแถลงการณ์ใหม่ทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของบริษัท เกี่ยวกับมาตรการรับมือไวรัสของบริษัท Square Enix ทั่วโลก โดยคุณ Phil ยืนยันว่าเกมจำพวก Live-Service อย่าง Final Fantasy XIV จะได้รับการสนับสนุนต่อไป และเกมที่อยู่ระหว่างพัฒนาทั้งหมดจะยังคงได้รับการพัฒนาต่อไปเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ คุณ Phil Rogers ยังยืนยันว่าเกม Final Fantasy VII Remake จะยังวางจำหน่ายตามกำหนดการเดิม คือวันที่ 10 เมษายนนี้ แต่ก็ยอมรับว่าแผ่นเกมอาจจะขาดตลาดได้ในบางพื้นที่ จากปัญหาด้านการขนส่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยจะมีการแจ้งรายละเอียดด้านจำนวนแผ่นในแต่ละพื้นที่อีกครั้งในอนาคต สุดท้ายนี้ บริษัทจะทำการโชว์เกมทางออนไลน์ด้วยตัวเอง ทดแทนงานเกมต่างๆ ที่ต้องยกเลิกไปในปีนี้ ถือเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่กิจการหลายชนิดจะถูกจำกัดจากมาตรการป้องกันโรคระบาดของหลากหลายประเทศ หวังว่าสถานการณ์ทั้งหมดจะคลี่คลายโดยเร็ว เราจะได้กลับมาสนุกกับเกมที่เรารักได้อย่างเต็มที่! อ่านแถลงการณ์ฉบับเต็ม (ภาษาอังกฤษ) ที่นี่ Credit: Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

เพิ่งเปิดให้ดาวน์โหลด DEMO กันไปหมาด ๆ บน PlayStation 4 กับเกมที่หลายท่านรอคอย Final Fantasy VII Remake เกมเก่ายุคคลาสสิคที่กลับมาใหม่ในรูปแบบที่ต่างไปจากเดิม ทั้งกราฟิกที่ปรับเปลี่ยนจากยุค Polygon เป็น 3D เต็มตัว สานต่อภาพจำสมัยวัยเยาว์ให้สมจริงยิ่งขึ้น ทั้งนี้ Final Fantasy VII Remake ไม่ใช่แค่เกมเดียวที่ผ่านกาลเวลาอันยาวนาน และกลับมาใหม่ในยุคปัจจุบัน แต่ทว่าในปีนี้มีอีกหลายไตเติลดัง ที่ได้กลับมาให้หายคิดถึงอีกครั้ง อาทิเช่น Resident Evil 3 Remake, Seiken 3 (Trials of Mana), Pokemon Mystery Dungeon กระแสเกมเก่าถูกกลับมา Remake หรือ Remaster ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นในปีนี้ แม้อาจจะดูหนักหน่วงในช่วงหลัง ๆ จนกลายเป็นคำถามคาใจว่าเหตุไฉน เกมยุคเก่าทั้งหลายถึงต้องถูกนำกลับมาใหม่ในยุคปัจจุบัน ความโหยหาอดีตที่ไม่สามารถย้อนกลับมาได้ ความโหยหาอดีตของเหล่าเกมเมอร์ยุคปัจจุบันครับ ยิ่งถ้าอยู่ในช่วงวัย 20 ต้น ๆ ไปจนถึง 30 ตอนปลาย ที่เติบโตมากับเครื่องเกม NES , Gameboy , GameCube  , หรือ PlayStation ซึ่งในช่วงนั้นหลายคนน่าจะยังอยู่ในอายุหลักหน่วยไปจนถึงหลักสิบต้น ๆ หลายเกมคือภาพทรงจำในอดีตที่เคยเป็นเกมแรกซึ่งเก็บเงินซื้อเอง , แม่ซื้อให้เป็นของขวัญตอนสอบได้ที่ 1 , หรืออาจจะเป็นเกมที่เพื่อนเคยยืมแล้วสูญหายไป แต่บรรยากาศยามที่เราสัมผัสปุ่มยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำ แต่ทว่าการจะกลับไปเล่นเกมเก่า ๆ เหล่านั้นไม่สามารถจะทำได้ง่าย ๆ ทั้งแผ่นเกมเก่าที่กลายเป็นสิ่งหายาก หรือเครื่องเกมที่มูลค่าสูง การ Remaster หรือ Remake อาจจะเป็นคำตอบที่เหมาะสมกว่า การพัฒนาของยุคสมัยใหม่ เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ใครหลายคนอยากเห็นการ Remake ของเกมโปรด ในสมัยเกมเก่าที่เราชื่นชอบอาจจะยังเป็นภาพรูปแบบ 8Bits 16Bits หรือภาพโพลิกอนแข็งๆ แต่ด้วยกาลเวลาร่วม 20 - 30 จะเห็นได้ว่าปัจจุบันกราฟิกไปได้ไกลขึ้นอย่างมหาศาล ยิ่งทำให้แฟนเกมเก่าที่เคยมองภาพตัวละครรักหรือบรรยากาศในเกมที่ถูกจำกัดด้วยเทคโนโลยีในยุคนั้น อยากเห็นภาพที่สวยสมจริงตามยุคสมัย เห็นได้ชัดอย่าง Cloud และเมือง Midgar ในเกม Final Fantasy VII สมัยที่ลงเครื่อง PlayStation และปัจจุบันได้ถูกนำมา Remake โดยมีการปรับปรุงดีไซน์ให้เหมาะสมกับเทคโนโลยีสมัยปัจจุบัน ทำให้เห็นภาพได้ชัดขึ้นบวกกับเข้าใจโลกของเกมได้มากขึ้นจากกาเนรมิตเมือง Midgar แบบสมจริง เพื่อสานต่อตำนานและให้ถูกเล่าขานสืบไป การ Remake ไม่ใช่เพียงแค่การตอบสนองให้แฟนรุ่นเก่าได้เบิกบานทางจิตใจ แต่อาจนำไปสู่การสร้างฐานแฟนคลับรุ่นใหม่ที่ไม่เคยได้สัมผัสเกมเหล่านั้นมาก่อนด้วย ทั้งยังทำให้เข้าใจความยอดเยี่ยม หรือความคลาสสิคของเกมที่คนรุ่นเก่าเคยกล่าวไว้ การกลับมาอีกครั้งของเกมระดับตำนานทั้งหลายจะช่วยตอกย้ำความสำเร็จไม่ให้เลือนหายไปตามกาลเวลาอีกด้วย ความคุ้มค่าต่อการ Remake เหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นอาจเป็นเหตุผลด้านความรู้สึกของผู้เล่นเสียมากกว่า แต่สำหรับผู้ผลิตเองก็พอจะมีเหตุผลสำคัญที่ทำให้อยากนำเกมเก่าของตนเองกลับมา Remake พอสมควร หากดูยอดขายของเกม Remake หลายเกมที่ผ่านมา เช่น Resident Evil 2 Remake สามารถทำยอดทะลุมากกว่า 5 ล้านก็อปปี้ ซึ่งมากกว่าต้นฉบับ หรือ The Legend of Zelda: Links Awakening Remake ที่สามารถทำยอดขายมากกว่า 4 ล้านก๊อปปี้ในปี 2019 ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่นี่พอใจสำหรับเกม Remake และมากกว่าเกมไตเติลใหม่หลาย ๆ เกมเสียด้วยซ้ำ อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่หลายนักพัฒนาอยากนำเกมเก่าของตนมา Remake ใหม่มากขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม  ผู้เล่นหลายๆ ท่านจะได้พบกับเกม Remake อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2020 อย่างแน่นอน และรวมไปถึงในปีถัด ๆ ไป ก็อาจจะเยอะขึ้นกว่าเดิมอีก มารอลุ้นดูว่าในอนาคต เกมรักเกมโปรดของคุณในอดีตอาจกลับมาอีกครั้ง หากผู้อ่านมีเกมโปรดเกมใดที่อยากให้ Remake ลองนำเสนอกันมาได้นะครับ

สวัสดีมิตรรักแฟน Final Fantasy ทุกท่าน ตอนนี้หลายคนก็น่าจะได้สัมผัสกับ Demo ของเกม Final Fantasy VII Remake ที่รอคอยกันไปแล้ว แต่ก่อนที่จะได้สัมผัสตัวเกมกันแบบเต็ม ๆ ในวันที่ 10 เมษายนนี้ เชื่อว่าหลายคนก็ยังต้องปรับตัวกับรูปแบบการเล่น ที่เปลี่ยนจากการเล่นแบบ Turn Base มาเป็นแบบ Action ในภาคนี้แทน เราจึงจะมาแนะนำวิธีการเล่นเพื่อให้ทุกคนสามารถฝึกฝนและสนุกกับเกมได้มากขึ้น โดยเริ่มจากเรียนรู้วิธีการเล่น Cloud Strife พระเอกหัวโจโคโบะสุดหล่อของเรา ที่จะได้บังคับเป็นตัวหลักตลอดทั้งเกมกันครับ ว่าแล้วก็ลองไปดูวิธีการเล่นของพี่คลาวด์กันเลย! < การควบคุมพื้นฐาน > สี่เหลี่ยม - ท่าโจมตีพื้นฐาน สามเหลี่ยม - เปลี่ยนรูปแบบ Mode การโจมตี วงกลม - เปิด Command Menu กากบาท - กลิ้งหลบ R1 - ป้องกัน / เคาเตอร์ R3 - ล็อคเป้าหมาย L1 + ปุ่มอะไรก็ได้ - Command Shortcuts ท่าโจมตีที่ตั้งไว้ Touchpad - ตรวจดูสถานะของศัตรู < เทคนิคและสิ่งที่ควรรู้ในการเล่น Cloud Strife > 1. รู้จัก Style การเล่นทั้ง 2 แบบ ก่อนอื่นเลย สิ่งที่ควรเรียนรู้นอกจากการรัวปุ่มโจมตีพื้นฐาน คือการรู้จักวิธีการเล่นของคลาวด์ที่มี Style ต่างกันให้เป็นซะก่อน โดยปกติแล้วคลาวด์จะอยู่ในโหมด “Operator Mode” ซึ่งในโหมดนี้ คลาวด์จะเคลื่อนไหวและโจมตีได้อย่างรวดเร็ว แต่มีพลังการโจมตีที่ค่อนข้างต่ำ สามารถป้องกันการโจมตีได้ด้วยการกดปุ่ม R1 และสามารถกระโดดโจมตีศัตรูที่บินอยู่ได้ (แต่ไม่สามารถโจมตีศัตรูประเภทป้อมปืนที่อยู่สูงกว่าได้) จาก Operator Mode เมื่อกดปุ่มสามเหลี่ยมแล้ว คลาวด์จะเปลี่ยนเป็น “Punisher Mode” ในโหมดนี้คลาวด์จะเคลื่อนไหวและโจมตีได้ช้า แต่มีพลังโจมตีที่รุนแรงหนักหน่วงเป็นวงกว้าง และช่วยเพิ่มเกจ ATB ได้เป็นอย่างดี ทว่าในโหมดนี้คลาวด์จะไม่สามารถโจมตีศัตรูที่บินอยู่ได้ หากแต่มีหัวใจสำคัญอยู่ที่ท่าเคาเตอร์การโจมตี โดยเมื่อเรากดปุ่ม R1 ค้างเอาไว้ หรือเปลี่ยนโหมดในจังหวะที่ศัตรูกำลังจะโจมตีมาถึงตัว คลาวด์ก็จะโจมตีกลับไปเพื่อทำคอมโบต่อได้ในทันที ซึ่งการเคาเตอร์นี้จะใช้ได้กับท่าโจมตีทางกายภาพ ไม่สามารถใช้กับท่าที่เป็นธาตุหรือเวทมนตร์ได้ แต่หากใช้ให้ดีใช้ให้เป็น ก็จะมีประโยชน์ในการพลิกเกมกลับได้มากทีเดียว 2. วิธีการต่อท่าปิดคอมโบ จาก Style การเล่นทั้ง 2 โหมดข้างต้น ในการโจมตีนั้นคลาวด์สามารถใช้ท่า “ปิดคอมโบ” เพื่อ “ต่อคอมโบ” ได้ด้วย โดยในระหว่างที่กำลังใช้ท่าโจมตีพื้นฐาน สามารถกดปุ่มสี่เหลี่ยมค้างเอาไว้ในจังหวะสุดท้ายหรือตอนไหนก็ได้ ซึ่งหากกดใน “Operator Mode” คลาวด์จะหมุนตัวโจมตีเป็นวงกว้าง ส่วนใน  “Punisher Mode” จะเป็นท่าแทงดาบลงพื้นที่มีระยะการโจมตีสั้นแต่รุนแรง และเมื่อกดปุ่มสามเหลี่ยมหลังจากที่ใช้ท่าปิดคอมโบ คลาวด์ก็จะสามารถโจมตีเป็นคอมโบต่อด้วยอีกโหมดหนึ่งได้ทันที การทำคอมโบแบบนี้นี้ให้ได้นับว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นมากโดยเฉพาะการต่อสู้กับบอส เพราะหากสามารถทำคอมโบต่อเนื่องได้จนจบครบชุดทั้งสองโหมด ก็จะมีโอกาสทำให้ศัตรูล้มลงและเพิ่มโอกาสโจมตีต่อได้อีกมากเลย 3. โจมตีด้วยสกิลอย่างมีประสิทธิภาพ คลาวด์เป็นตัวละครที่ทำให้ศัตรูล้มลงได้ง่าย ไม่ว่าจะจากการใช้คอมโบต่อเนื่องหรือการใช้สกิลที่มี โดยในเบื้องต้นนั้นคลาวด์จะมี Abilities อยู่ 2 ท่า คือ “Braver” และ “Focused Trust” โดย Braver จะเป็นท่ากระโดดฟันที่หนักหน่วง เหมาะสำหรับการใช้เมื่อศัตรูล้มลง จะสามารถสร้างความเสียหายได้เป็นเท่าตัว ส่วน “Focused Trust” จะเป็นท่าพุ่งแทง เหมาะสำหรับการใช้เมื่อศัตรูขึ้นสถานะ “Pressured” จะทำให้เกจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และทำให้ศัตรูติดสถานะ “Staggered” ล้มลงได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีการใช้ “Spells” หรือเวทมนตร์ในการโจมตี ซึ่งสามารถใช้หยุดการโจมตีของศัตรูประเภทเครื่องจักร หรือใช้เป็นท่าโจมตีศัตรูที่อยู่ในระยะไกลได้ด้วย อีกทั้งท่าไม้ตาย Limit Break ก็ยังมีพลังโจมตีหลายเท่าตัวมากขึ้นในตอนที่ศัตรูอยู่ในสถานะ “Staggered” ด้วย โดยในตัวเกมเต็มนั้นคลาวด์จะมีท่าโจมตีอื่นๆ ที่สามารถปลดล็อคได้ในระหว่างการเล่นอีกมากมาย จึงทำให้สามารถผสมผสานกันเล่นได้มากขึ้นด้วย 4. การใช้ Command Shortcuts ให้คล่องแคล่ว ในขณะที่รูปแบบของเกมได้เปลี่ยนมาเป็นแบบ Action แต่ก็ยังมีการผสมผสานความเป็น RPG และใช้ Tactics ในการเล่น ด้วยการเลือกคำสั่งสกิลสำหรับผู้ที่ไม่ถนัดเกม Action อยู่ด้วย แต่สำหรับผู้ที่อยากเล่นแบบระดับเซียนจริงๆ ก็สามารถตั้งค่าปุ่มสกิลโจมตีได้ที่เมนู Battle Setting และฝึกการใช้ปุ่มลัดต่อเนื่องกับท่าคอมโบต่างๆ ก็จะทำให้เล่นแบบต่อเนื่อง และสนุกกับการดจมตีได้โดยไม่มีสะดุดเลย 5. เรียนรู้เทคนิคเพิ่มเติม ลักษณะการเล่นของคลาวด์นั้นจะใช้ดาบในการโจมตี ซึ่งมีระยะการโจมตีอยู่ที่ระดับกลาง แต่มีความคล่องแคล่วและการเข้าถึงตัวศัตรูได้อย่างรวดเร็วมาก ซึ่งถ้าหากกด Locked On เป้าหมายไว้ด้วยปุ่ม R3 ต่อให้อยู่ในระยะที่ห่างจากศัตรูพอสมควร คลาวด์ก็จะสามารถพุ่งเข้าไปโจมตีได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งนอกจากจะใช้ท่าโจมตีด้วยดาบแล้ว ก็ยังใช้เวทมนตร์เป็นการปิดคอมโบต่อในกรณีที่ศัตรูอยู่ห่างออกไปได้ด้วยเช่นกัน โดยรวมแล้วถือว่าคลาวด์เป็นตัวละครที่สามารถผสมผสานการโจมตีได้อย่างต่อเนื่อง และมีความหลากหลายในการทำคอมโบตามแต่ลักษณะการเล่นของผู้เล่นแต่ละคนต่างกันไป เป็นอย่างไรกันบ้างกับเทคนิคการเล่นของ Cloud Strife พระเอกขวัญใจของ Final Fantasy VII หวังว่าทุกท่านจะได้เรียนรู้เข้าถึงวิธีการเล่นของคลาวด์มากขึ้น และฝึกฝนการเล่นให้คล่องแคล่วเพื่อที่จะได้สมกับฐานะ Soldier 1st Class กันจริงๆ แต่นอกจากคลาวด์แล้วก็ยังมีตัวละครอื่นๆอย่าง Barret, Tifa, Aerith ซึ่งมีความสนุกและรูปแบบการเล่นที่แตกต่างกันไปอีก ไว้โอกาสหน้าเราจะมาแนะนำวิธีการเล่นแบบเจาะลึกกันให้ครบทุกคนไปเลยครับ!

Final Fantasy VII Remake ถือว่าเป็นหนึ่งในเกมที่หลาย ๆ คนรอคอยมาก เนื่องจากเป็นการรีเมคเกมคลาสสิคสมัยเครื่อง PlayStation 1 ให้มาอยู่ในรูปแบบเกมการเล่นปัจจุบัน พร้อมกราฟิกที่สวยงามตามสไตล์ Square Enix ล่าสุด Demo ของเกมนี้อาจจะมาเร็วกว่าที่คิด เว็บไซต์ gamstat.com เว็บไซต์สำหรับการติดตามข้อมูลทุกอย่างของ PlayStation ได้อัปโหลดรูปของเกม Fantasy VII Remake และเกม Patapon 2 remaster ในรูปแบบทดลองเล่น  ทำให้มีแนวโน้มสูงว่าทางผู้พัฒนาเกมอาจจะเปิดให้เราได้ทดลองเล่นเกมเร็ว ๆ นี้ เพราะเว็บไซต์นี้ดึงข้อมูลมาจากผู้เล่นทุกคนและตัวเซิร์ฟเวอร์ https://twitter.com/Renka_schedule/status/1209637400583884800?s=20 เรื่องนี้ถือว่าน่าสนใจเพราะเกมอย่าง Patapon 2 Remaster ที่เคยประกาศว่าจะลงให้กับเครื่อง PlayStation 4 เมื่อปลายปี 2017 แล้วก็เงียบหายไปเลย การที่ชื่อของเกมนี้โผล่ออกมาก็แสดงให้เห็นถึงว่าตัวเกมมีแนวโน้มจะได้เล่นสูง Final Fantasy VII Remake มีกำหนดการให้เล่นในเดือนมีนาคม 2020 แฟน ๆ ของซีรีส์นี้ไม่ควรพลาด อ้างอิง:gematsu.com

Final Fantasy VII กำลังจะกลับมาอีกครั้งในชื่อ Remake ในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งหลัง ๆ มานี้ เราก็ได้เห็น Footage ในเกมถูกปล่อยออกมามากมาย ไม่ว่าจะเป็นท้างด้านวิดีโอเกมเพลย์ หรือในแบบรูปภาพ แต่นี้อาจจะเป็นข่าวร้ายสำหรับคนที่ไม่มีเครื่อง PS4 ครับ เมื่อล่าสุด Square Enix ออกมาประกาศแล้วว่า "Final Fantasy VII Remake จะเป็น Exclusive PS4 เป็นเวลา 1 ปี" ครับ! ข่าวนี้ได้มาจากรูปภาพที่ดูเหมือนจะเป็นหน้าปกของกล่องใส่แผ่นเกม โดยสังเกตุได้ที่มุมขว่าล่างของภาพ จะสังเกตุเห็นข้อความที่เขียนไว้ว่า "ตัวเกมนั้นจะ Exclusive สำหรับเครื่อง PS4 จนถึงวันที่ 3 มีนาคม 2021" ซึ่งนับเป็นเวลา 1 ปี หลังจากตัวเกมวางจำหน่ายพอดี จริง ๆ แล้วไม่ใช้เรื่องน่าแปลกใจอะไร เพราะคิดว่าเกมเมอร์หลาย ๆ คน ก็คงคาดการณ์เอาไว้แบบนี้อยู่แล้วครับ Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้น ส่วนเครื่อง ๆ อื่น ก็คงต้องรอกันไปอีก 1 ปี ครับ Credit : Siliconera ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

Final Fantasy VII Remake ซึ่งเป็นการกลับมาของเกม RPG ระดับตำนานจากทาง Square-Enix และมีกำหนดจะวางขายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 ซึ่งตัวเกมนั้นก็จะลงให้กับเครื่อง PS4 เท่านั้น ไหนๆ ตัวเกมมันก็ Exclusive อยู่แล้ว ก็ทำให้มันพิเศษขึ้นไปอีกนิดแล้วกัน ล่าสุดทาง Official Twitter ของเกม ก็ได้ออกมาบอกว่า ตัวหน้าปกของกล่องใส่แผน จะสามารถกลับด้านได้ นอกจากนี้ถ้าหากว่า Pre-Order ก็จะได้รับ Chocobo Chick Summon Materia DLC ไปเลยฟรีๆ ด้วยครับ! เอาจริงๆ แล้วเราก็ไม่ค้อยได้เห็นเกมที่สามารถกลับด้านของปกได้เท่าไหร่นัก โดยปกด้านปกติของเกมเวอร์ชั่นนี้ จะเป็นรูปของ Cloud ที่ยืนมองบริษัทชินระอยู่ แต่ถ้าชอบปกเรียบๆ แบบสีดำล้วนแล้วมีโลโก้ของเกมสวยเด่นเพียงอย่างเดียวเหมือนกับที่วางขายในประเทศญี่ปุ่น ก็สามารถกลับด้านของปกออกมาโชว์แค่นั้นได้เหมือนกันครับ Final Fantasy VII Remake จะวางจำหน่ายในวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PS4 เท่านั้น https://twitter.com/finalfantasyvii/status/1199735127519182848 Credit : GamingBolt ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ให้สาธยายกันสามวันสี่คืนก็ไม่จบจริงๆ กับอิทธิพลอันใหญ่หลวงที่เกม Final Fantasy VII มี ทั้งต่อเหล่าเกมเมอร์ที่เติบโตขึ้นในยุคค.ศ. 90 ตอนปลาย ไปจนถึงแนวเกม RPG และวงการเกมในภาพกว้าง ตั้งแต่การใช้กราฟฟิคแบบโพลิกอน 3D ทั้งเกมเป็นเกมแรกๆ ของยุค แนวทางการออกแบบศิล์ปที่ผสมผสานเทคโนโลยีไฮเทคเข้ากับความเป็นแฟนตาซีที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของซีรี่ส์ Final Fantasy จวบจนทุกวันนี้ แถมยังเป็นเกมที่ยกระดับให้ค่ายเกมญี่ปุ่น Square Soft กลายเป็นค่ายเกมแนวหน้าที่รู้จักกันไปทั่วโลกแม้กระทั่งในตลาดตะวันตก แม้เวลาจะล่วงเลยมากว่า 20 ปีแล้วนับตั้งแต่ที่เกมวางจำหน่ายครั้งแรกในปี 1997 แต่เกม Final Fantasy VII ก็ยังคงเป็นเกม JRPG โปรดของผู้เล่นเกมหลายๆ คน ที่ยังคงยกให้เกมเป็นหนึ่งใน JRPG ที่ดีที่สุดที่เคยสร้างมาเลยทีเดียว ด้วยประการต่างๆ ที่ว่าไปข้างต้น ทำให้การมาถึงของเกม Final Fantasy VII Remake สร้างความตื่นเต้นและกังวลให้กับเหล่าแฟนเกมทั่วโลกไปพร้อมๆ กัน ในแง่หนึ่งก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นเรื่องน่ายินดีที่เหล่าแฟนเกมรุ่นใหญ่จะได้หวนคืนสู่โลก Gaia และเหล่าตัวละครอันเป็นที่รักที่ถูกสร้างใหม่ด้วยกราฟฟิคอันสวยงามของเกมยุคปัจจุบัน แถมยังเป็นโอกาสอันดีที่เหล่าเกมเมอร์รุ่นเด็กๆ จะได้สัมผัสกับเกม RPG ระดับตำนานนี้เป็นครั้งแรกในรูปแบบที่เข้าถึงง่ายกว่าการหาเกมยุค PS1 กลับมาเล่นอีกด้วย แต่ในอีกแง่หนึ่ง ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกันว่าเกม Final Fantasy VII Remake ที่ผู้พัฒนาประกาศว่าจะเปลี่ยนแปลงระบบการเล่นอันเป็นหัวใจหลักไปอย่างสิ้นเชิง อาจจะทำให้แฟนๆ เกมที่ยังคงรักเกมภาคเก่าหัวปักหัวปำรู้สึกไม่ถูกใจกับการเปลี่ยนแปลงของเกมในดวงใจ และอาจจะแอบผิดหวังเล็กๆ กับระบบการเล่นใหม่ที่จะเข้ามาทดแทนการเล่นแบบคลาสสิคที่โหยหาจะได้สัมผัสอีกครั้ง ผู้เขียนได้มีโอกาสลองเล่นเกม Final Fantasy VII Remake ในงาน Tokyo Game Show 2019 ที่ผ่านมา (ขอขอบคุณ Square Enix และ PlayStation ที่จัดช่องเวลาเอาไว้ให้) โดยเดโมที่ได้ลองเล่นคือฉากการวางระเบิดเตาปฏิกรณ์ Mako ซึ่งมีคนบอกมาว่าคือฉากเปิดเกมภาคดั้งเดิม โดยเราจะสามารถควบคุมตัวละครได้สองตัวคือตัวเอก Cloud Strife และ Barret Wallace สลับไปมาระหว่างตัวละครทั้งสองได้ตลอดเวลา สิ่งแรกที่ผู้เล่นทุกคนน่าจะสังเกตคือภาพกราฟฟิคของเกม ที่ทำออกมาได้สมจริงคมชัดยิ่งกว่าเกมของ Square Enix หลายๆ เกมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเลยทีเดียว ตั้งแต่กราฟฟิคส่วนพื้นผิวของสิ่งของ ไปจนถึง Particle Effect แสงสีระยิบระยับตามฉาก ที่ทำออกมาได้อย่างปราณีต เปี่ยมไปด้วยรายละเอียดที่ยิ่งสังเกต ลงไปก็ยิ่งเห็นมากขึ้น เช่นเดียวกับอนิเมชั่นและสีหน้าของตัวละครต่างๆ ที่ใช้เทคโนโลยี Motion-Capture ทำให้การเคลื่อนไหวร่างกายและใบหน้าของตัวละครมีความลื่นไหลสมจริงมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นองค์ประกอบที่สามารถเสริมอรรถรสในส่วนของเนื้อเรื่องเกมได้เป็นอย่างดี การเปลี่ยนมาใช้มุมมองแบบบุคคลที่สามก็ช่วยในการสร้างบรรยากาศของเกมได้อีกเช่นกัน เพราะผู้เล่นสามารถบังคับตัวละครให้สำรวจตามฉากเพื่อหาไอเทมได้อย่างอิสระ โดยมุมมองที่เปลี่ยนไปยังทำให้สถานที่ในฉากที่เคยเป็นเพียงภาพแบนๆ มีมิติขึ้นมา ช่วยสื่อถึงขนาดและ/หรือความตื้นลึกหนาบางของแต่ละสถานที่ได้ดีกว่าเดิม ทำให้ฉากที่หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนมีชีวิตชีวาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน [caption id="attachment_28612" align="aligncenter" width="1024"] ภาพเก่าเอามาเล่าใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิม[/caption] ในส่วนของเกมเพลย์นั้น ระบบการเล่นของเกม Final Fantasy VII Remake จะผสมผสานการควบคุมแบบแอคชั่นเต็มรูปแบบเข้ากับระบบ ATB ที่พบเห็นได้ในเกม Final Fantasy หลายๆ ภาคที่ผ่านมา โดยการต่อสู้จะเน้นใช้การโจมตีธรรมดาเป็นคอมโบเพื่อเก็บเกจ ATB ของตัวละคร ซึ่งจะกลายมาเป็นทรัพยากรสำหรับใช้ท่า Ability ต่างๆ ของตัวละครอีกที ตัวแทนจาก Square Enix ได้อธิบายว่าเกมถูกออกแบบมาให้ผู้เล่นใช้การโจมตีธรรมดา (ปุ่มสี่เหลี่ยม) เพื่อเพิ่มเกจ ATB เป็นหลักมากกว่าเพื่อสร้างความเสียหาย และใช้ความสามารถพิเศษต่างๆ เพื่อปลิดชีพศัตรูอีกที ถ้าจะให้เปรียบความแอคชั่นของเกมกับเกมอื่นๆ ของผู้พัฒนา Square Enix อย่าง Final Fantasy XV หรือ Kingdom Hearts ผู้เขียนรู้สึกว่า FFVIIR (Final Fantasy VII Remake) น่าจะใกล้เคียงกับ Final Fantasy XV มากกว่า เพราะผู้เล่นก็ยังมีความสามารถในการกลิ้งหลบหรือป้องกันการโจมตีของศัตรูไม่ต่างกัน แต่ในขณะเดียวกัน FFVIIR ก็ยังมีความลื่นไหลมากกว่า Final Fantasy XV อยู่หน่อยจากอนิเมชั่นการโจมตีที่รวบรัดกว่า [caption id="attachment_28613" align="aligncenter" width="1024"] การต่อสู้แบบแอคชั่นที่ดุเดือดรวดเร็ว[/caption] นอกจากนี้ ผู้เล่นยังสามารถสลับไปมาระหว่างตัวละครเพื่อใช้ความสามารถเฉพาะตัวของตัวละครนั้นๆ ให้เข้ากับสถานการณ์ได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่นการเปลี่ยนเป็น Barret เพื่อใช้แขนปืนกลของเขากำจัดศัตรูที่อยู่ที่สูงที่ Cloud ใช้ดาบฟันไม่ถึงนั่นเอง น่าสนใจว่าตัวละครร่วมทีมอื่นๆ จะมีความสามารถเฉพาะตัวแตกต่างกันแค่ไหน แต่อาจจะด้วยความที่เดโมถูกปรับให้ง่าย หรืออาจจะเพราะเป็นส่วนเริ่มต้นของเกมก็ดี ผู้เขียนกลับรู้สึกว่าแทบไม่ได้จำเป็นต้องใช้ท่าพิเศษหรือใช้การวางแผนใดๆ ก็สามารถกำจัดศัตรูธรรมดาๆ อย่างทหารชินระหรือหุ่นโดรนตัวเล็กๆ ตามฉาก ได้แบบไม่มีปัญหาด้วยการกดปุ่มโจมตีซ้ำๆ เฉยๆ ทำให้ยังไม่ค่อยเห็นภาพนักว่าถ้าเกมเริ่มเพิ่มลูกเล่นต่างๆ มากขึ้น (เช่นมนต์ซัมม่อน หรือแค่เพียงเพิ่มตัวละครในปาร์ตี้อีกซักตัวสองตัว) จะทำให้เกมเพลย์ท้าทายมากกว่านี้แค่ไหน แต่โดยเบื้องต้นนั้นถือว่าเกมเพลย์ของ FFVIIR สอบผ่านในแง่ของความรู้สึกอันลื่นไหลเป็นธรรมชาติ แม้ว่าจะยังไม่ได้ต้องใช้ความคิดหรือฝีมือนักในเดโม นอกจากนี้ เกมยังมีระบบการ Stagger คล้ายๆ กับในเกม Final Fantasy XV ที่เมื่อโจมตีศัตรูจนล้ม (สังเกตได้จากหลอดสีส้มๆ ใต้หลอดเลือด) จะทำให้ศัตรูติดสถานะ Stagger ส่งผลให้โดนความเสียหายแรงขึ้น ซึ่งการเล่นในส่วนหลังๆ น่าจะมีความสำคัญขึ้นมา แต่ในเดโมที่ผู้เขียนเล่นยังไม่ได้จำเป็นเท่าไหร่นัก [caption id="attachment_28617" align="aligncenter" width="1024"] ท่า Triple Slash สุดคลาสสิค[/caption] ส่วนเดียวของเดโมที่ทำให้ผู้เขียนต้องใช้การวางแผนซักหน่อยก็คือส่วนของบอสหุ่นยนต์แมลงป่องช่วงท้ายเดโม ที่จะคอยยิงจรวดติดตามใส่เราตลอดเวลาทำให้ต้องคอยหยุดโจมตีและหันมาป้องกันหรือกลิ้งหลบบ้าง และยังสามารถเปิดเกราะบาเรียที่ต้องใช้เวทย์สายฟ้า Thunder ของ Barret ใส่เพื่อลบออกก่อนจะโจมตีได้ แถมพอเลือดเหลือน้อยยังสามารถยิงปืนใหญ่เลเซอร์ใส่เราได้อีก ทำให้ผู้เล่นต้องวิ่งไปหลบหลังสิ่งกีดขวางตามฉากเพื่อไม่ให้โดนเลเซอร์ ซึ่งในจุดนี้ก็ทำให้เห็นภาพมากขึ้นว่าระบบต่อสู้ของเกมจะท้าทายผู้เล่นอย่างไรบ้าง [caption id="attachment_28618" align="aligncenter" width="768"] ลุง Barret หล่อกว่าเดิมเยอะเลย[/caption] อีกหนึ่งองค์ประกอบของระบบต่อสู้ที่น่าพูดถึงคือระบบ Tactical Mode ที่จะชะลอการเคลื่อนไหวทั้งหมดในจอเพื่อให้ผู้เล่นสามารถเลือกใช้ไอเทม สกิล หรือกระทั่งท่าสุดยอดอย่าง Limit Break จากเมนูเหมือนเกม RPG ทั่วไปได้ และสามารถใช้สั่งเพื่อนร่วมทีม A.I. ให้ทำนู่นทำนี่ได้ด้วย (ลองนึกภาพเกมเพลย์ของ Dragon Age: Inquisition แต่ไม่ลึกเท่า) ซึ่งในจุดนี้ผู้เขียนยังไม่รู้สึกถึงความจำเป็นในการใช้ระบบนี้เท่าไหร่นักในเดโมเพราะทุกอย่างรวมถึงบอสสามารถรับมือได้ด้วยการโจมตีธรรมดาๆ หรือการใช้ปุ่มลัดโดยการกด L1 ค้างและกดปุ่มสัญลักษณ์เพื่อใช้สกิลเหมือนเกมแอคชั่น แต่ก็พอจินตนาการได้ว่าถ้าเริ่มเจอศัตรูระดับสูงที่มีจุดอ่อนที่ซับซ้อนกว่านี้ ก็อาจจะกลายเป็นระบบที่จำเป็นมากก็ได้เช่นกัน [caption id="attachment_28619" align="aligncenter" width="768"] เมื่อเข้า Tactical Mode จะทำให้ทุกอย่างเคลื่อนไหวช้าลง และจะมีเมนูขึ้นมาตรงมุมซ้ายล่าง[/caption] ต้องยอมรับตรงๆ ว่าผู้เขียนไม่ใช่คนที่ตื่นเต้นกับเกม Final Fantasy VII Remake มากเท่ากับคนอื่นๆ ที่เป็นแฟนตัวยงของเกม แต่เสี้ยวเดโมที่ได้เล่นก็สนุกและน่าสนใจมากพอที่จะทำให้ผู้เขียนอยากจะเล่นและสำรวจเกมๆ นี้ต่อไปอีกยาวๆ เลยทีเดียว Final Fantasy VII Remake มีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 3 มีนาคม 2020 สำหรับเครื่อง PS4 โดยเฉพาะ ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่

ชินระคือองค์กรในเกม Final Fantasy VII ที่มีบทบาทสำคัญของเกมเป็นอย่างมาก แต่ภายในเกมภาค Remake นี้เราก็ยังไม่ได้เห็นการเปิดตัวของสมาชิกในองค์กรนี้เลย ล่าสุดทางผู้กำกับของเกมนี้อย่างคุณ Tetsuya Nomura ได้ให้สัมภาษณ์กับทางสื่อดังญี่ปุ่น Famitsu ว่าจะมีการเปิดเผยเหล่าสมาชิกในองค์กรนี้ภายในงาน Tokyo Game Show แน่นอน รวมถึงภายในงานนั้นจะมีการโชว์โมเดลดาบ Buster Sword ขนาดไซส์จริงอีกด้วย รวมถึงยังมีรายละเอียดเวอร์ชั่น PC เล็กๆ น้อยๆ https://www.youtube.com/watch?v=Z3xSGv3Hfio โดย Final Fantasy 7 Remake เป็นเกมที่ถูกเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2015 ซึ่งตอนนี้ตัวเกมใกล้จะวางจำหน่ายให้เราได้เล่นกันแล้วนั่นคือวันที่ 3 มีนาคม 2020 บนเครื่อง PlayStation 4 ติดตามข่าวสารเกมต่างๆ ได้ที่ Website : http://wpadmin.gamefever.co/ Facebook : https://www.facebook.com/GameFeverTH/

อาจจะเป็นสตรีมสั้นๆ ง่ายๆ แค่เพียง 10 นาที แต่การสตรีมเปิดตัวเกมใหม่ของโซนี่อย่าง State of Play ครั้งที่ 2 นี้เรียกว่าอัดแน่นไปด้วยคุณภาพคับคั่ง ด้วยการเปิดตัวอย่างเกมน่าเล่นและและอัพเดทใหม่ๆ เพียบ! เพื่อให้ทุกคนสามารถติดตามทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้แบบง่ายๆ เราจึงรวบรวมข่าวทั้งหมดจากสตรีม State of Play ครั้งล่าสุดนี้มาไว้ให้คุณในที่เดียวกันไปเลย! ทั้งตัวอย่างใหม่จาก Final Fantasy VII Remake (มีเกมเพลย์ด้วยนะ!) เดโมเกมเพลย์เปิดตัวเกม Ghost Recon Breakpoint และตัวอย่างภาคเสริม Monster Hunter World: Iceborne บอกได้เลยว่าช่วงครึ่งปีหลังนี่มีอะไรให้เหล่าเกมเมอร์ได้ตื่นเต้นกันอีกเยอะแน่นอน! Final Fantasy VII Remake เริ่มจากข่าวที่หลายคนน่าจะรอกันอยู่มากที่สุดกับตัวอย่างใหม่ของ Final Fantasy VII Remake! https://www.youtube.com/watch?v=Df0YG3qfZ8E ในขณะนี้ยังไม่ม่รายละเอียดเกี่ยวกับเกมเพลย์ออกมาแน่ชัด แต่เท่าที่เห็นจากในเทรลเลอร์ เชื่อว่าเกมเพลย์น่าจะมีความเป็นแอคชั่นมากกว่าจะเป็นแนว Turn-based แบบภาคดั้งเดิม เป็นไปได้มากว่าเกมเพลย์น่าจะได้รับแรงบันดาลใจมากจากเกม Crisis Core: Final Fantasy VII ที่เคยวางจำหน่ายในเครื่อง PSP ในปี 2008 นอกจากนี้ ในเทรลเลอร์ยังได้เปิดเผยหน้าตาตัวละครสำคัญอย่าง Aerith เป็นครั้งแรก แถมยังมีการแย้มๆ ตัวละครวายร้ายสุดอมตะอย่าง Sephiroth อีกด้วย ทางผู้พัฒนา Square Enix ยังทิ้งท้ายไว้ด้วยว่าจะมีข้อมูลเพิ่มเติมในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ (ทันงาน E3 2019 พอดีเลย...) Ghost Recon Breakpoint ถือเป็นเซอร์ไพรส์ที่น่ายินดีที่เดียวกับการเปิดตัวเกม Ghost Recon ภาคใหม่ล่าสุดภายใต้ชื่อ Breakpoint ซึ่งดูเหมือนจะเป็นภาคต่อจากเกมยอดนิยมอย่าง Ghost Recon: Wildlands อีกด้วย! https://www.youtube.com/watch?v=BLWt9MQLVgU จากเทรลเลอร์เนื้อเรื่อง จุดเชื่อมที่ชัดเจนที่สุดระหว่างเกมภาคใหม่และภาค Wildlands ก่อนหน้านี้ดูจะเป็นตัวละคร Cole D. Walker (รับบทโดยนักแสดง Jon Bernthal จากซีรี่ย์ The Punisher) ซึ่งเพิ่งจะโผล่มาเป็นแขกรับเชิญในเนื้อเรื่องเสริม Operation Oracle ของเกม Wildlands ที่วางจำหน่ายไปเมื่อเร็วๆ นี้นั่นเอง ซึ่งนอกจากจะได้รับเทรลเลอร์เปิดตัวสุดอลังการแล้ว ยังมีเดโมเกมเพลย์ (Alpha) ความยาวกว่า 13 นาที ที่แสดงให้เห็นถึงมุมกล้องและระบบการเล่นที่ซับซ้อนมากขึ้น เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถใช้เครื่องมือและลูกเล่นใหม่ๆ สำหรับการซ่อนตัวจากศัตรู เช่นการใช้โคลนมาทาหน้าทาตัวเพื่อหลบซ่อนเป็นต้น ซึ่งน่าจะทำให้เกมต้องใช้การวางแผนและทีมเวิร์คที่มากกว่าเกมภาคก่อนหลายเท่าด้วย https://www.youtube.com/watch?v=XvHGqvV0qRg จากข้อมูลที่เปิดเผยออกมานั้น ดูเหมือนว่าเกม Ghost Recon Breakpoint จะเป็นเกมแนวกึ่งออนไลน์ในลักษณะเดียวกับ The Division หรือ Destiny โดยจะเปิดให้ผู้เล่นถึง 4 คนสามารถร่วมมือกันเพื่อผ่านภารกิจต่างๆ ได้ โดยผู้พัฒนาได้เปิดเผยออกมาว่าเกมจะมีระบบคลาสอาชีพที่ ลึกซึ้ง และจะได้รับการอัพเดทเนื้อเรื่อง ภารกิจ และคลาสอาชีพตัวละครอย่างต่อเนื่อง แถมผู้พัฒนายังเปิดเผยแล้วด้วยว่าเกมจะได้รับอัพเดทภารกิจประเภท Raid (ภารกิจระดับสูงช่วงท้ายเกม) เข้าไปหลังจากที่วางจำหน่ายแล้วด้วย ทั้งนี้ แม้ว่ารายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเกมยังไม่ชัดเจนนัก แต่อย่างน้อยก็อาจจะไม่ต้องรอนานกว่าที่ผู้พํฒนาจะเปิดเผยข้อมูลเพิ่มอีกในงาน E3 ที่จะถึงนี้ เพราะเกมมีกำหนดวางจำหน่ายวันที่  4 ตุลาคมปีนี้แล้ว! Monster Hunter World: Iceborne เงียบหายไปซักพักใหญ่ๆ กับเกมล่าแย้ในตำนานของค่าย Capcom อย่าง Monster Hunter World ที่ล่าสุดได้ปล่อยเทรลเลอร์ใหม่วำหรับภาคเสริมใหญ่ Iceborne ออกมาให้ชมกันแล้ว! https://www.youtube.com/watch?v=KUuaty581D4 สำหรับสิ่งแรกที่หลายคนน่าจะตื่นเต้นกันคือการเปิดตัวเหล่าแย้หน้าเก่าและใหม่หลายๆ ตัว (มีตัวที่เหมือนทีเร๊กซ์หัวแพะด้วย...) รวมไปถึงมังกร Elder Dragon ตัวใหม่อย่าง Velkhana อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการแสดงระบบการเล่นใหม่ๆ อย่างอุปกรณ์เสริมสำหรับเจ้า Slinger ของเราที่ทำให้เราสามารถกระโดดเกาะตัวแย้ได้เลยทันที รวมไปถึงท่าโจมตีใหม่ๆ สำหรับอาวุธต่างๆ อีกด้วย สำหรับภาคเสริมนี้จะวางจำหน่ายในวันที่ 6 กันยายนในราคา $40 (ราว 1300 บาท) สำหรับคนที่มีเกมตัวต้นอยู่แล้ว ในขณะที่คนที่ยังไม่เคยเล่นจะสามารถซื้อแพ๊คพิเศษ Monster Hunter World: Iceborne Master Edition ซึ่งจะมาพร้อมตัวเกมภาคดั้งเดิมด้วยในราคา $60 (ราว 1700-1900 บาท) ...และอื่นๆ อีกเพียบ! นอกจากสามเกมหลักที่น่าจะเป็นที่สนใจสำหรับผู้เล่นทุกคนแล้ว ภายในสตรีมยังมีการพูดถึงเกมอื่นๆ อยู่อีกจำนวนหนึ่ง ทั้งที่เป็นเกมระดับ AAA และเกมอินดี้นั่นเอง MediEvil https://www.youtube.com/watch?v=4-S93BigurA สำหรับแฟนเกมมีอายุสมัย PS1 อาจจะพอจำกันได้กับเกม MediEvil เกมซีรี่ย์ตะลุยด่านอันโด่งดังที่เคยวางจำหน่ายไปตั้งแต่ปี 1998 โดยเกมจะกลับมาอีกครั้งในรูปแบบ Remastered ใหม่แบบยกเครื่องตั้งแต่กราฟิคไปถึงระบบเกมเพลย์ (ลักษณะเดียวกับเกม Crash Bandicoot N-Sane Trilogy) เอาใจเกมเมอร์รุ่นใหญ่กันไปเลย Predator: Hunting Grounds อีกหนึ่งโปรเจ๊คที่น่าสนใจกับเกม Predator: Hunting Grounds เกม PS4 Exclusive เกมใหม่ที่จะวางจำหน่ายในปีหน้า โดยตัวเกมจะมีลักษณะเป็นแนว Asymmetric Multiplayer (เกมมัลติเพลย์เยอร์แบบสองข้างไม่เสมอกัน) แนวเดียวกับเกมอย่าง Dead by Daylight หรือ Evolve นั่นเอง https://www.youtube.com/watch?v=wiSmINxtLC8 แม้ในคลิปตัวอย่างจะไม่มีรายละเอียดอะไรเกี่ยวกับเกม แต่บทความในเว็บ PlayStation Blog ได้เปิดเผยว่าเกมจะเป็นแนว Third-Person Shooter ที่จะให้ผู้เล่นฝั่งหนึ่งรับบทเป็นเหล่าทหารมนุษย์ที่จะต้องทำภารกิจต่างๆ ตามด่าน ไปพร้อมๆ กับการเอาตัวรอดจากนักล่า Predator ที่จะมีผู้เล่นอีกคนเป็นคนควบคุมเช่นกัน Away: The Survival Series เกมแนว Survival สุดแหวกแนว ที่ให้เรารับบทเป็นตัวจิงโจ้บิน (หรือ Sugar Glider) ที่ต้องเอาตัวรอดในธรรมชาติอันโหดร้ายและสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปจากมลพิษ เกมได้รับแรงบันดาลใจมาจากสารคดีสัตว์โลกต่างๆ ทางทีวี ถือเป็นแนวคิดที่น่าสนใจไม่น้อยเลย https://www.youtube.com/watch?v=lIjGxIxQ8ok Riverbond สำหรับเกมสุดท้ายนั้นทีชื่อว่าเกม Riverbond ซึ่งดูแล้วจะเป็นเกมอินดี้แนวตะลุยด่านกราฟิคแนวพิกเซลสามมิติ ที่จะสนับสนุนการเล่นแบบ Local Co-op (เล่นจอเดียว) ถึง 4 คน เหมาะกับเอาไว้เล่นกับเพื่อนๆ หรือครอบครัว แต่นอกจากนั้นก็ยังไม่เห็นอะไรพิเศษขนาดนั้น https://www.youtube.com/watch?v=CsASJ1r-DLk การกลับมาของโปรโมชั่น Days of Play และเครื่อง PS4 Slim ลายพิเศษ! แฟนๆ ชาว PlayStation อาจจะจำกันได้กับโปรโมชั่นลดราคาครั้งใหญ่ของ PlayStation อย่าง Days of Play ที่นำเกมน้อยใหญ่บนร้านค้า PlayStation Store มาลดราคากันกระหน่ำยาวเป็นสัปดาห์เลยทีเดียว เช่นเดียวกับปีที่แล้ว โปรโมชั่น Days of Play ครั้งนี้ก็จะมาพร้อมกับเครื่อง PS4 Slim 1TB รุ่นพิเศษ ซึ่งคราวนี้มาในสีดำเงาแบบคลาสสิค โดยตัวเครื่องจะวางจำหน่ายพร้อมๆ กับโปรโมชั่นช่วงสิ้นปีนี้ https://www.youtube.com/watch?v=yg0X7d0GKUA

ตามธรรมเนียมที่ทำมาตลอดหลายปี นิตยสารเกม Famitsu ของญี่ปุ่นได้ทำการเผยแพร่บทความพิเศษสำหรับช่วงปีใหม่ ซึ่งมีลักษณะเป็นการรวมบทสัมภาษณ์สั้นๆ จากผู้พัฒนาหลายๆ คน โดยในปีนี้หัวข้อของบทความได้ให้ผู้พัฒนาบรรยายปี 2019 ที่จะถึงนี้ในคำเดียว พร้อมกับแบ่งปันความคิดหรือความรู้สึกที่มีต่อวงการเกมในปีหน้า คำตอบของบรรดาผู้พัฒนาที่ได้ร่วมให้สัมภาษณ์นั้นมีคนที่น่าสนใจเป็นพิเศษอยู่สองคนคือคุณ Tetsuya Nomura และคุณ Yoshinori Kitase ซึ่งเป็นผู้พัฒนาระดับสูงของเกม Final Fantasy VII Remake ทั้งคู่ โดยคุณ Nomura เลือกบรรยายปี 2019 เพียงคำเดียวสั้นๆ ว่า 7 และแบ่งปันข้อความสั้นๆ เพียงว่า จะมีการประกาศข้อมูลใหม่มากมาย ในขณะเดียวกัน คุณ Kitase ได้บรรยายปี 2019 ด้วยคำว่า ความคาดหวังสูง และกล่าวในข้อความว่า การพัฒนา Final Fantasy VII Remake กำลังดำเนินไปได้ด้วยดี โดยเขาและทีมงานต่างพยายามอย่างหนักเพื่อไม่ให้แฟนๆ ผิดหวัง เมื่อเอาข้อมูลจากข้อความของผู้พัฒนาทั้งสองมารวมกัน ก็น่าจะตีความได้ว่าเกม Final Fantasy VII Remake น่าจะได้รับการแถลงข่าวหรือเปิดเผยข้อมูลสำคัญในปีหน้า ซึ่งน่าจะหนีไม่พ้นเทรลเลอร์ใหม่ เผลอๆ อาจจะได้รู้วันวางจำหน่ายเกมกันซะทีด้วยนะ แต่จะเป็นอะไรกันแน่ คงได้แต่รอจนกว่าผู้พัฒนาจะออกมาเฉลยด้วยตัวเองจ้า! (ขอบคุณข้อมูลจาก Dual Shockers)

ดูเหมือนว่าเกม Final Fantasy VII Remake อาจจะได้รับการเปลี่ยนแนวไปจากเกมดั้งเดิมซะแล้ว เมื่อเว็บ Siliconera รายงานถึงคำประกาศรับสมัครงานของค่าย Square Enix ที่บรรยายเกม Final Fantasy VII Remake ว่าเป็นเกมแอคชั่น! จากข้อมูลที่อยู่ในช่องสีแดงด้านบนบอกว่าผู้ที่รับตำแหน่งจะได้ร่วมออกแบบ CG สำหรับเกม Final Fantasy VII ที่จะ Remake เป็นเกมแอคชั่น (แปลจากคำรับสมัครภาษาญี่ปุ่นด้วย Google Translate) ทำให้คิดว่าเกมอาจจะอิงระบบการต่อสู้ของเกม Final Fantasy VII: Crisis Core หรือเปล่า หรืออาจจะออกมาคล้ายๆ Final Fantasy XV กับ Kingdom Hearts ก็ยังได้ ทั้งนี้ เกม Final Fantasy VII Remake นั้นยังไม่มีทีท่าว่าจะได้วางจำหน่ายเร็วๆ นี้แน่นอน แต่อย่างน้อยๆ ก็พอจะมั่นใจได้ว่าเกมยังคงได้รับการพัฒนาอยู่ในขณะนี้ แต่จะออกมาหน้าตาเป็นยังไงคงต้องรอดูกันไปยาวๆ จ้า